MFC พุ่ง 10% หลังไตรมาส 1 กวาดรายได้โต 133% หนุนกำไรพุ่งกว่าเท่าตัว  

MFC พุ่ง 10% หลังไตรมาส 1 กวาดรายได้โต 133% หนุนกำไรพุ่งกว่าเท่าตัว  ล่าสุดอยู่ที่ 18.20 บาท บวก 1.70 บาท หรือ 10.30% มูลค่าซื้อขาย 8.53 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC ล่าสุด ณ เวลา 10.23 น. อยู่ที่ 18.20 บาท บวก 1.70 บาท หรือ 10.30% สูงสุดที่ 19.70 บาท ต่ำสุดที่ 18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 8.53 ล้านบาท

โดย ราคาหุ้น MFC ปรับตัวขึ้น หลังรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/64 มีกำไร 91.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176.03% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 33.08 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี เผยว่า ในปี 2563-2564 บลจ. เอ็มเอฟซี ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง ทั้งกองทุนที่เสนอขายไปแล้วและกองทุนเปิดใหม่ โดยเฉพาะกองทุน IPO ในลักษณะ FIF โดยคัดสรรกองทุน Thematic ใหม่ๆ และกองทุนคุณภาพดีที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้สนับสนุนการขายได้คัดกองทุนที่มีคุณภาพดีและสร้างทางเลือกที่หลากหลายเข้าถึงลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งเมื่อกองทุนคุณภาพที่ทางบริษัทก่อตั้งขึ้นอยู่ในมือทีมขายที่มีทักษะ สามารถให้รายละเอียดกองทุนได้เป็นอย่างดีแล้ว จึงทำให้ผู้เข้าลงทุนมีความมั่นใจและเข้าใจในกองทุนที่ผู้เชี่ยวชาญของเราที่ให้คำแนะนำ MFC จึงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่และสร้างผลงานได้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2564  MFC จัดตั้งกองทุนรวมใหม่จำนวน 7 กองทุน (IPO) มูลค่า AUM ณ วันที่จดทะเบียนรวม 6,803 ล้านบาท โดยกองทุน MFTECH และ M-EM ได้รับกระแสตอบรับและเป็นที่ชื่นชอบของผู้เข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้จำนวนผู้ลงทุน ณ วันที่จดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมใหม่ ในไตรมาส 1 ปี 2564 มี จำนวนผู้ลงทุนรวมทุกกองทุน IPO เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 1 ปี 2563 คิดเป็น 2,340%

MFC มุ่งสู่การออกกองทุนแนวใหม่ๆที่มีคุณภาพและมีเอกลักษณ์โดดเด่น เพื่อขยายฐานลูกค้ามากขึ้น ซึ่งในปี 2564 เรามีกองทุนเด่นที่เป็นทางเลือกและโอกาสดีในการลงทุนมากมายเช่น 1.กองทุน MRENEW ที่จัดเป็นกองทุนพลังงานทดแทน ที่ feed เข้ากองทุนหลัก BlackRock Sustainable Energy Fund

 โดยเน้นลงทุนหุ้นทั่วโลกในอุตสาหกรรมพลังงานยั่งยืน 30-60 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลดีจากกระแสเงินที่เป็นแรงหนุนจากที่หลายประเทศทั่วโลกทั้งจากภาครัฐและภาคประชาสังคม ที่ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานยั่นยืนซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อโลกอย่างจริงจังในปัจจุบัน (เช่น การลดโลกร้อน ลดคาร์บอน หรือการก่อให้เกิด PM 2.5) โดยพลังงานยั่งยืนกำลังเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากการใช้พลังงานที่มากขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินวิถีชีวิตแนวทางใหม่ที่เปลี่ยนไปของโลก

ทั้งยังเป็นกองทุนหลัก BGF Sustainable Energy Fund ที่บริหารกองทุนโดยทีมงานผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี  2. กองทุน MFTECH ที่เน้นลงทุนใน ARK Fintech Innovation ETF(ARKF) ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการจัดการ ETF แบบ Active เน้นลงทุนบริษัทที่เป็นผู้นำนวัตกรรมที่ Disrupt ธุรกิจการเงินเดิมๆ และปีที่แล้ว กองทุน ARK Fintech Innovation ETF ก็บวกกว่า 100%

รวมทั้ง 3. กองทุน MCANN กองทุนกัญชากองแรกของไทย ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่สวยงามและเป็นการเปิดทางให้กับธุรกิจกองทุนกัญชา-กัญชงในประเทศไทย แน่นอนว่าเมื่อเริ่มก่อนย่อมมีโอกาสเฟ้นหาช่องทางการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย MCANN จะเน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกัญชาหรือกัญชงทางการแพทย์ที่ถูกกฎหมายทั่วโลก โดยน้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความต้องการ และมูลค่าตลาดสูงโดยเฉพาะอเมริกาเหนือ ผ่าน Cannabis ETF สองตัวเด่น คือ POTX และ CNBS” นายธนโชติ กล่าว

ทั้งนี้ธุรกิจกองทุนรวมในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังจากที่โควิด-19 คลี่คลายลงไปบ้าง และมีบลจ.ในตลาดเริ่มออกกองทุนรวมใหม่ๆ มามากขึ้น ทำให้ตลาดกองทุนรวมกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงต้นปีนี้ แต่แน่นอนว่าในสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดขึ้นอีกครั้ง อาจจะทำให้ส่งผลกระทบกับการออมและการลงทุนในอนาคตตามไปด้วย ทาง MFC จึงระดมกำลังจากทีมงานคุณภาพที่มากด้วยประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญในการคัดสรรการลงทุนและจัดตั้งสุดยอดกองทุนใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกที่เข้ากับสถาณการณ์โลกในปัจจุบัน รวมทั้งนำเสนอการลงทุนและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งตอบโจทย์ให้กับกลุ่มลูกค้า โดยมุ่งหวังช่วยเสริมสร้างด้านการออม รวมถึงสร้างผลกำไร ความสำเร็จ และอนาคตที่มั่นคงจาการลงทุนได้อย่างมืออาชีพ

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์สำคัญคือ MFC ได้เปิดใช้งาน Application ใหม่ “MFC Wealth” ที่เพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการลงทุนให้กับลูกค้ากองทุนรวม โดยการซื้อขายหรือสับเปลี่ยนกองทุน จะไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เอกสาร ใช้แค่บัตรประชาชน อนุมัติผ่านแอพและสามารถซื้อขายได้ในทันที สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยมีบัญชีกองทุนรวมกับ MFC เพียงโหลด MFC Wealth อีกทั้ง MFC Wealth ยังอำนวยข่าวสาร ความเคลื่อนไหว บทวิเคราะห์ และสถานการณ์การลงทุนได้อย่างท่วงทีรวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ

Back to top button