CRC ร่วง 6% ถูกขายก่อนประกาศงบ Q1 “กรุงศรี” ยังแนะซื้อ คาดกำไรปี 65 ฟื้นตัวแรง
CRC ราคาหุ้นร่วงเกือบ 6% คาดนักลงทุนเทขายก่อนประกาศงบ Q1/64 ฟาก "บล.กรุงศรี" ยังแนะซื้อ เป้า 41 บาท แม้คาดกำไรหด 30% รับการฟื้นตัวรวดเร็วในปี 65
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC วันที่ 12 พ.ค.2564 ณ เวลา 10.33 น. อยู่ที่ระดับ 33 บาท ปรับตัวลดลง 2 บาท หรือ 5.71% สูงสุดที่ระดับ 34.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180.84 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในวันนี้ คาดการณ์ว่า สาเหตุมาจากความกังวลว่าจะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 กำไรสุทธิลดลง
ทั้งนี้ “ผู้สื่อข่าว” สำรวจผลประกอบการปี 2563 มีกำไรสุทธิ 46.27 ล้านบาท เทียบกับปี 2562 มีกำไรสุทธิ 10,633.26 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในวันนี้ส่งผบให้หุ้นมีอัพไซด์เพิ่มขึ้นจากราคาเป้าหมาย อีกทั้ง บล.กรุงศรี ยังให้คำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 41 บาท จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปี 2565
โดย บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ CRC ราคาเป้าหมาย 41.00 บาท โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 1/2564 ที่ 520 ล้านบาท ลดลง 30% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน จากยอดขายยังคงลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ถึงแม้ว่าการลดลงจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนเป็นผลจากฐานที่สูงใน 2 เดือนแรกของไตรมาส 1/2564 แต่กำไรยังคง ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน จากมาตรการประหยัดต้นทุนที่ทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงจากไตรมาสก่อน สู่ 29.6% (-185 bps จากไตรมาสก่อน) ซึ่งทำให้อัตรา EBIT เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน สู่ 3.1% (+87 bps จากไตรมาสก่อน) เนื่องจากประหยัดต้นทุนชดเชยรายได้ที่ลดลงผลจากข้อจำกัดต่างๆ
อย่างไรก็ตามยอดขายปลีกยังคงอ่อนแอผลจากยอดขายแฟชั่นลดลงระดับเลขสองหลัก คาดว่า CRC จะมียอดขายปลีกไตรมาส 1/2564 ที่ 4.35หมื่นล้านบาท (ลดลง 10% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน, ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน) ซึ่งเป็นประเด็นกดดันหลักจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน เป็นผลมาจากธุรกิจแฟชั่น (ทั้งในไทยและอิตาลี) คาดยอดขายแฟชั่นไตรมาส 1/2564 ที่ 1.03หมื่นลบ. (16% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน)
ทั้งนี้เนื่องจากมาตรการ ข้อบังคับในไทยและอิตาลีคาดยอดขายธุรกิจอาหารไตรมาส 1/2564 ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท (ลดลง 13% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) กดดันจากฐานที่สูงในไทยชดเชยการเติบโตเชิงบวกจาก GO! Mall และ คาดยอดขายธุรกิจฮาร์ดไลนในไตรมาส 1/2564 ที่ 1.36หมื่นลบ. (-2% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน), เนื่องจากผล การดำเนินงานที่อ่อนแอจาก Powerbuy และ Nguyen Kim กดดันผลการ ดำเนินงานไทวัสดุและการรวมผลการดำเนินงาน 2 เดือนของ COL
สำหรับการระบาดระลอก 3 ทำให้การฟื้นตัวของยอดขายในเดือน เม.ษ.น้อยลง ทั้งนี้เชื่อว่าราคาหุ้นมีผลตอบแทนน้อยกว่าตลาด 8% ใน 1เดือนที่ผ่านมาได้รวมผล ของการการระบาดระลอกสามในไทยไปบางส่วนแล้ว ในเบื้องต้นการระบาดระลอก สาม จะกระทบยอดขาย CRC ในเดือน เม.ษ. ในลักษณะการฟื้นตัวลดลง มากกว่าที่จะเป็น การแนวโน้มยอดขายลดลงสู่ระดับต่ำกว่าเดิม เนื่องจากมาตรการข้อบังคับมีความ เข้มงวดน้อยกว่าการลอคดาวน์ในไตรมาส 2/2563 แม้ว่าตลาดอาจปรับคาดการณ์กำไรลงเพื่อ รวมปัจจัยการฟื้นตัวที่อ่อนแอ แต่คงคาดการณ์กำไร (คาดการณ์ต่ำกว่าตลาด 50% อยู่แล้ว) และคงคำแนะนำ ซื้อ สำหรับการฟื้นตัวที่รวดเร็วใน 2565