จังหวะช้อน RT หลังรูด 5 วัน 15% ผบห.ย้ำกำไรปี 64 โตตามเป้า – จ่อคว้างานใหม่ 7 พันลบ.
จังหวะช้อน RT หลังรูด 5 วัน 15% ผบห.ย้ำกำไรปี 64 โตตามเป้า - จ่อคว้างานใหม่ 7 พันลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ณ เวลา 10.52 น. อยู่ที่ระดับ 2.32 บาท ลบ 0.12 บาท หรือ 4.92% สูงสุดที่ระดับ 2.36 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 32.11 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 5 วันติด นับตั้งแต่ราคาปิด 2.74 บาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 หรือคิดเป็นลดลง 0.42 บาท หรือ 15%
ด้านนายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RT เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเติบโตดีขึ้นตามแผนที่บริษัทวางไว้ เช่น งานอุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย เชียงราย เชียงของ, งาน Pipe Jacking ที่อยู่ระหว่างรอผลประกวดราคา, งานอุโมงค์ประปา รวมทั้งงานที่เหลืออื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าปีนี้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง ด้วยปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการลงทุนของภาครัฐตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจงานโครงสร้างพื้นฐานในหลายโครงการ อาทิ ระบบขนส่งทางราง งานถนน ระบบบริหารจัดการน้ำในประเทศ ซึ่งงานก่อสร้างเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานมีมูลค่างานสูงและเป็นงานที่มีการก่อสร้างต่อเนื่อง ต้องอาศัยความรู้ความสามารถจากบริษัทที่มีประสบการณ์และความชำนาญพิเศษ ซึ่งมีผู้รับเหมาจำนวนน้อยรายที่ดำเนินธุรกิจได้แบบ RT
โดยปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้ทำนิวไฮต่อเนื่อง เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หรืออยู่ที่ 3,500 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 15-20% และแผนการดำเนินงานมุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุกรับงานในประเทศและงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของประเทศ โดยบริษัทมีความพร้อมในการรับงานทั้งในด้านบุคลากรและ เครื่องจักร – เครื่องมือที่สามารถรองรับงานได้ทันที
ทั้งนี้ปัจจุบันสัดส่วนรายได้แบ่งตามประเภทงาน ประกอบด้วย งานก่อสร้างอุโมงค์และโครงสร้างใต้ดิน 55% งานสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน 18% งานสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ 1% งานท่อร้อยสายไฟใต้ดิน 14% และงานอื่น ๆ 12% อาทิ งานเจาะสำรวจ งานปรับปรุงฐานราก งาน Slope Protection งานถนน เป็นต้น และแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศ 94.2% และต่างประเทศ 5.8%
สำหรับมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 3,213 ล้านบาท ซึ่งบริษัทสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงปี 64-66 พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานของทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสรับงานใหม่อีก เพื่อเพิ่ม Backlog ให้สูงขึ้น ซึ่งทั้งปี 64 บริษัทคาดว่าจะมี Backlog เพิ่ม 7,000 ล้านบาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ มองผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/64 ยังมีโอกาสฟื้นตัวจากไตรมาส 1 รวมถึง แนวโน้มช่วงครึ่งหลังของปี 64 ยังดีและมีโอกาสรับงานใหม่มากกว่าคาด
ดังนั้น คงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ 250 ล้านบาท +6% จากปีก่อน แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/64 มีแนวโน้มชะลอตัวจากปีก่อน จาก GPM ที่ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 ซึ่งอยู่ในระดับสูงถึง 25% ตามงานหลักโครงการอุโมงค์รถไฟทางคู่มาบกะเบา-จิระ ซึ่งมี GPM สูงเริ่มทยอยเสร็จ
อย่างไรก็ตาม คาดผลการดำเนินงานจะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน เนื่องจากโครงการที่มีปัญหา cost overrun มีการส่งมอบไปในเดือน เม.ย. อีกทั้งปัญหาการนำเข้าเครื่องจักรเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว นอกจากนี้ยังคงมุมมองบวกต่อทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 64 หนุนโดย backlog ที่อยู่ในระดับสูงถึง 4 พันล้านบาท
ขณะที่เรามองว่ามูลค่างานลงนามสัญญาใหม่ปี 2564 มีโอกาสมากกว่าที่ประเมินไว้ที่ 2.2 พันล้านบาท เนื่องจากล่าสุด YTD จากข้อมูลที่บริษัทแจ้งใน SET บริษัทรับงานใหม่แล้วราว 600 ล้านบาท ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เตรียมเปิดประมูลในวันที่ 18 พ.ค. นี้ โดยงานอุโมงค์โครงการดังกล่าวมีมูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทมีโอกาสรับงานผ่าน subcontract สูงมาก
ดังนั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 3.00 บาท อิง PE ปี 2564 ที่ 13 เท่า โดยฝ่ายวิจัยมองว่า RT ยังน่าสนใจ จาก 1) backlog ที่อยู่ในระดับสูงราว 4 พันล้านบาท ซึ่งสามารถ secure รายได้อย่างน้อยถึงไตรมาส 1/65 ขณะที่แนวโน้มการเติมโครงการใหม่ยังมีสูง และ 2) ปัจจุบันเทรดที่ PE ปี 64 เพียง 11 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มผู้รับเหมาขนาดเล็กที่ 16 เท่า