KWM โชว์กำไรไตรมาส 1 โต 4 เท่าตัว! เคาะแจกวอร์แรนท์ 3:1 ปักธงรายได้ปีนี้โต 15%
KWM ไตรมาสแรกอวดกำไรสุทธิ 25.04 ลบ. โต 400% บอร์ดไฟเขียวแจกวอร์แรนท์ 140 ล้านหน่วย อัตรา 3 ต่อ 1 พร้อมวางเป้ารายได้ปีนี้โต 15% ลุยทุ่มงบ 50 ลบ. ขยายฐานผลิตใหม่
นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 บริษัทฯมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 153.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.44 ล้านบาท หรือ 104.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 76.01 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 25.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.10 ล้านบาท หรือ 406.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.94 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่บริษัทฯมีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น เป็นผลมาจากปัจจัยด้านฤดูกาลหรือเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่ปกติจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของทุกปี ทำให้ยอดขายเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตรของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการเติบโตของภาคการเกษตรทั้งการเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น และราคาสินค้าที่ปรับตัวดีจึงเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรขยายการผลิตมากขึ้น
ทั้งนี้ จากปัจจัยสนับสนุนดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ดังนั้นบริษัทฯจึงอยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมทบทวนปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ของปีนี้รอบใหม่หลังจากสิ้นสุดไตรมาส 2/2564 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเดิมที่วางเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 355.06 ล้านบาท จึงมีความเป็นไปได้ว่าภาพรวมผลประกอบการตลอดทั้งปี 2564 จะสามารถเติบโตทุบสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้งต่อเนื่องจากปี 2563
“จากการสำรวจความต้องการสินค้าการเกษตรของ 2 กลุ่มหลัก ได้เห็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเร่งตัวของการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มแรก คือ การผลิตสินค้าให้กับคู่ค้ารายใหญ่ภาคเกษตร ได้แก่ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์ “ตราช้าง” ที่ล่าสุดได้เร่งการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรในจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาการผลิตตามปกติเพื่อสอดรับกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเกษตรกร เช่นเดียวกับแนวโน้มยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ “Pegasus” ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเองที่ผลิตอุปกรณ์การเกษตร เช่น ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน” นายเอกพันธ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้ประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ลงทุนขยายสายการผลิตใหม่แห่งที่ 3 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตส่วนอุปกรณ์ประเภทใบผาลพร้อมติดตั้งเครื่องพ่นสี รองรับความต้องการของสินค้าเครื่องจักรกลและอุปกรณ์การเกษตรที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมากในอนาคต โดยไลน์การผลิตใหม่นี้จะนำมาตั้งอยู่ในพื้นที่โรงงานแห่งที่ 2 ที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน (BOI) และได้รับการลดหย่อนสิทธิประโยชน์ทางภาษีเต็มจำนวนถึงปี 2569 เบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในสายการผลิตดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 4/2564
อีกทั้งบริษัทฯมีแผนก่อสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่เพิ่มเติมอีก 1 แห่ง เพื่อช่วยบริหารสต็อกสินค้าสร้างโอกาสการเติบโตรอบใหญ่และเพิ่มศักยภาพการทำกำไรในช่วงที่ตลาดมีความต้องการสินค้าทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังเป็นส่วนช่วยลดความผันผวนของผลประกอบการในแต่ละไตรมาสให้มีความสมดุลด้านอัตราการเติบโตให้มีความใกล้เคียงกันตลอดทั้งปีอีกด้วย
ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 1 (KWM-W1) จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยไม่คิดมูลค่าในอัตราการจัดสรรเท่ากับ 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ มีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่ออก และมีอัตราการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ 1หน่วยต่อหุ้นสามัญของบริษัท 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิ1.50 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ KWM-W1 (Record Date) ณ วันที่ 27 พ.ค. 2564 เพื่อจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2564