ECL พุ่งแรง 14% นิวไฮรอบกว่า 2 ปี โบรกฯอัพกำไรปีนี้โตเด่น-แนะซื้อเคาะเป้าใหม่ 2.48 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ราคาหุ้นบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL ณ เวลา 10.58 น. อยู่ที่ระดับ 2.02 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 13.48% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 568.93 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี 7 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.02 บาท เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2561

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ECL รายงานกำไรไตรมาส1/2564 อยู่ที่ 56 ล้านบาท (โต 400% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ โต 108% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส โดยเป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลง รวมทั้งมีการกลับรายการหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งมีการตั้งสำรองจำนวนมากในปี 2563 ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นผลจากการ i) การใช้นโยบายบัญชีแบบอนุรักษ์นิยมในปีก่อน เพื่อเคลียร์สินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากพอร์ต ii) การปรับระบบการคัดกรองสินเชื่อ โดยเป็นการประสานความร่วมมือ Know-how จากผู้ถือหุ้นใหญ่ Premium Financial Services (PFS) ซึ่งทำธุรกิจสินเชื่อรถมือสองที่ประเทศญี่ปุ่น และฐานข้อมูล Big data ของทาง ECL เพื่อสะท้อนพฤติกรรมของลูกหนี้คนไทย จึงปรับสมมติฐาน หนี้สงสัยจะสูญปีนี้สะท้อน ผลการดำเนินงานในไตรมาส1/2564 ที่ทำได้ดีกว่าคาด

ทั้งนี้ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงชั่วคราวในไตรมาส 2/2564 ตามภาวะเศรษฐกิจ และจะกลับมาโตเด่นอีกครั้งในครึ่งหลังปี 2564 โดยรวมปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น +12% เป็น 140 ล้านบาท เติบโต +128% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (ใกล้เคียงจุดสูงสุดในอดีตที่ 142 ล้านบาทในปี 2561)

โดยประเมินผลการดำเนินงานของ ECL จะโตเด่นใน 2H64 จาก i) การเริ่มจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ AUCT ในการปล่อยสินเชื่อรถประมูลตั้งแต่เดือน เม.ย. เป็นต้นมา แต่เนื่องจากผลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเมินว่ายอดสินเชื่อจากลานประมูลรถในไตรมาส 2/2564 จะยังเพิ่มไม่มาก เนื่องจาก AUCT ไม่สามารถเปิดการประมูลได้ตามปกติ แต่คาดว่ายอดสินเชื่อในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส3/2564 เป็นต้นไป

โดยคาดจะเน้นไปที่สินเชื่อรถจักรยานยนต์ประเภท บิ๊กไบค์ และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากเป็นสินเชื่อคุณภาพที่มีสถิติหนี้เสียน้อยกว่ารถยนต์ Passenger car และ ii) การรุกธุรกิจรับประกันคุณภาพรถมือสอง ซึ่งเป็น Know-how ของ PFS ที่ทำธุรกิจนี้สำเร็จที่ประเทศญี่ปุ่น โดย ECL ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนรถที่จะทำประกันคุณภาพไว้ที่ 5 พันคันในปีนี้ (จาก 1 พันคันในปีก่อน) โดยผ่านเครือข่ายเต้นท์รถมือสองที่เป็นพันธมิตร เน้นโซนกรุงเทพ-ปริมณฑล และภาคตะวันออก

หลังการปรับประมาณการฯขึ้น ประเมิน Valuation ของ ECL ยังไม่สะท้อนผลการดำเนินงานปีนี้ โดย PBV บนประมาณการฯปี 2564 ต่ำเพียง 1 เท่า คิดเป็นราว -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่คาดกำไรปีนี้แตะระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิมในปี 2561 ที่ระดับ ±140 ล้านบาท จึงปรับสมมติฐานเป้าหมาย PBV ขึ้นเป็น 1.3 เท่า ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 2.48 บาท ซึ่งที่ระดับ PBV 1.3 เท่า ก็ถือเป็นเพียงระดับของค่าเฉลี่ย PBV ในอดีตเท่านั้น