SET สัปดาห์นี้ปรับฐาน-MSCI ลดน้ำหนักหุ้นไทย! กลยุทธ์เน้นย่อสะสมกลุ่ม Earnings+Global Play

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (24-28 พ.ค.64) “Sideways/Down” ต้าน 1575/1585 จุด รับ 1524/1500 จุด

(*) Covid-19 & Vaccination : DM สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ค่อนข้างดีและมีการฉีดวัคซีนไปในสัดส่วนที่สูง นำโดย US, EU,UK ฉีดไปแล้ว 48%,33%,54% ของประชากร ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดี แต่หลายประเทศในเอเชียกลับมาเผชิญการแพร่ระบาดอยู่ นำไปสู่การ Lockdown ขณะที่การฉีดวัคซีนยังช้าโดยเอเชียฉีดไปเพียง 5% ของประชากร ทำให้เศรษฐกิจจะไม่สดใสเท่า DM

(-) Fund Flows : Fund Flows ในเอเชียผันผวนต่อเนื่อง โดยต่างชาติขายสุทธิในเอเชีย 5 สัปดาห์ติดต่อกันรวม -14,250 ล้านเหรียญ และขายไทยทุกวันทำการใน 2 สัปดาห์รวม -620 ล้านเหรียญ ขณะที่ประเมินว่า Fund Flows จะผันผวนต่อในสัปดาห์นี้ จากการที่ MSCI Rebalance ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง มีผล 27 พ.ค.

(-) Third Wave : ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯยอดผู้ติดเชื้อทั่วไปยังทรงตัวสูง 2พันราย (+/-) เช่นเดียวกับยอดผู้เสียชีวิตที่พุ่งทำ New High ขณะที่เริ่มมีสายพันธุ์อินเดีย จึงต้องจับตาใกล้ชิด ขณะที่สัปดาห์นี้ กทม เริ่มให้ลงทะเบียนเร่งฉีดวัคซีน

(+) A New Borrowing Decree : คลังเสนอออกพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มอีก 7 แสนลบ.(4.5% ของ GDP ปี 2563) Nomura คาดพรก.นี้จะผ่านได้ในปลายไตรมาส 2/2564 ขณะที่มองว่าหนี้สาธารณะจะเพิ่มขึ้นทะลุเพดานที่ 60% ของ GDP คาดทำให้รัฐจะขยายเพดานหนี้เป็น 70% ของ GDP ในเดือนก.ย. นอกจากนี้ การกู้เงินเพิ่มท่ามกลางรายรับที่จำกัด จะทำให้ Fiscal Deficit ปี 2021 สูงขึ้น โดย Nomura ปรับคาดการณ์ขึ้นเป็น 9.2% จากคาดที่ 7% ของ GDP แต่ยังคงคาดการณ์ GDP ปี 2021 ที่ 2.1%

(-) MSCI Rebalance : ไทยถูกลดน้ำหนักลง -0.1% สู่ 1.73% คิดเป็นเม็ดเงินราว -341 ล้านเหรียญ โดยในดัชนี MSCI Global Standard หุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณ ได้แก่ SCGP (คาดเม็ดเงิน +104 ล้านเหรียญฯ), CBG(+48 ล้านเหรียญฯ) เพิ่มน้ำหนัก OSP, KTC, STGT, BH ราว 22-6 ล้านเหรียญฯต่อบริษัท

ขณะที่หุ้นที่ถูกถอดออกคือ KBANK-F(-210 ล้านเหรียญฯ), DTAC(-33 ล้านเหรียญฯ) ลดน้ำหนัก PTT,KBANK, INTUCH, CPN, SCC, CPALL, EGCO, TU ราว -94 ล้านเหรียญฯ ถึง -8 ล้านเหรียญฯต่อบริษัท ส่วนดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นที่ถูกเข้าคำนวณ นำโดย ACE, PSL, RCL, SCCC, SINGER, SYNEX, TTA, TOA ขณะที่ไม่มีหุ้นที่ถูกถอดออก ทั้งหมดจะมีผลราคาปิดวันที่ 27 พ.ค.

(*/-) Market EPS : คาดการณ์ EPS ปี 2564-2565 ตลาดเริ่มขยับลงเล็กน้อยสู่ 82.01และ 94.59 บาท/หุ้น โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มที่ถูกปรับ EPS ลง ได้แก่ HOTEL,TRANS, ENTER, CONS ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Third Wave ซึ่งคาดจะทยอยเห็นการปรับลดประมาณการลงต่อเนื่อง หลังผ่านพ้นงบ 1Q21 แล้ว

กลยุทธ์การลงทุน : สัปดาห์นี้ประเมินตลาดปรับฐานกดดันจาก MSCI ที่ลดน้ำหนักหุ้นไทยลง (Buy on Dip) แบบ Selective เป็นรายกลุ่มเน้น Earnings + Global Play (กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี กลุ่มโภคภัณฑ์ กลุ่มส่งออก และกลุ่มประกัน) ขณะที่ให้น้ำหนักการลงทุนอยู่ที่ 50%

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TVO, BEC, IRPC ส่วนสัปดาห์ก่อน TVO, BEC, BDMS ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.92% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 0.19%

1) TVO (TP42) : คาดผลประกอบการ 1H21 โดดเด่น รับราคาถั่วเหลืองขาขึ้น

2) BEC (TP12.4) : หุ้น Turnaround คาดผลประกอบการฟื้นตัวเด่น

3) IRPC (TP4.5): ลุ้นเข้า SET50 ขณะที่แนวโน้ม Spread ยังสูง