วอลุ่มหด หมดธีมเล่น ฝรั่งขายต่อ

วานนี้ลุ้นเกือบทั้งวันว่าหุ้นจะปิดในแดนบวกหรือลบ


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ลุ้นเกือบทั้งวันว่าหุ้นจะปิดในแดนบวกหรือลบ

เพราะระหว่างวันดัชนีวิ่งขึ้น-ลง อยู่ทั้งในแดนบวกและลบสลับกันไป ชวนเวียนหัว

ทว่า ในที่สุด ลงมาปิดลบ 0.59 จุด ดัชนีมาอยู่ที่ 1,551.852 จุด ไม่หลุดแนวรับสำคัญ 1,550 จุด ค่อยโล่งอกไปอีกครั้ง

ประเด็นที่น่าสนใจคือ มูลค่าการซื้อขาย หรือวอลุ่มหดหายไปเยอะ

เมื่อวานนี้วูบลงมาเหลือเพียง 78,740 ล้านบาท

แตกต่างจากก่อนหน้านี้ ที่วอลุ่มซื้อขาย (ปกติ) ต้องขึ้นหลัก 9 หมื่นล้านบาท หรือแสนล้านบาท

วอลุ่มหายสะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนเริ่มลังเลที่จะเข้าลงทุน หรืออาจจะลดมูลค่าการลงทุนลง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ

หากจะให้วัดว่า ระหว่างสถานการณ์ในประเทศ กับต่างประเทศ อันไหนมีผลต่อการตัดสินใจกับนักลงทุนมากกว่ากัน

หากวันนี้ เชื่อว่านักลงทุนมองประเด็นในประเทศเป็นหลัก

โควิดที่มากันครบทุกสายพันธุ์ในประเทศไทยกำลังถูกจับตา

แผนการกระจายวัคซีนจะทำได้เร็วตามแผน หรือเร็วกว่าแผนหรือไม่ นี่คือเรื่องสำคัญนำมาเป็นอันดับแรก

หากยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงทุกวัน

และการกระจายวัคซีนยังไม่มีอะไรคืบหน้า

นักลงทุนก็คงพอประเมินได้ว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอาจจะหนักกว่าที่ประเมินกันไว้ หรือแผนการฟื้นเศรษฐกิจ อาจจะไม่เป็นไปตามคาดการณ์

แน่นอนว่า ดัชนีความเชื่อมั่นจะลดลง

และนำไปสู่ “การปรับพอร์ต” ชะลอการลงทุน

เว้นแต่จะมีประเด็น หรือปัจจัยเชิงบวกเข้ามาสนับสนุนนั่นแหล่ะ เช่น การกระจายวัคซีนทำได้ดีมาก ๆ ถึงมากที่สุด

และนำไปสู่การเปิดเมือง

รวมถึงความหวังกับ พ.ร.ก.คาดหวังเงินกู้ 7 แสนลบ.มาช่วย

ปัจจัยเหล่านี้ถูกมองว่า น่าจะพอช่วยประคอง Downside ของตลาดหุ้นได้บ้าง

ที่น่าสังเกตอีกเรื่องกับตลาดหุ้นเมื่อวานนี้

หุ้นที่เล่นกัน จะกระจัดกระจายไปยังหลากหลายกลุ่ม ไม่ได้โฟกัสไปยังหุ้นธีมใดธีมหนึ่งเป็นพิเศษ

คือ นักลงทุนจะดูหรือเลือกเล่นกันเป็นรายตัว ที่มีปัจจัยบวกแบบเฉพาะตัวจริง ๆ

อย่างเมื่อวานนี้ หุ้น U ที่ถูกลากขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา

โผล่มาวันจันทร์ ก็ยังนำมาล่อเม่าให้เข้าเล่นกันต่อ

ผลสุดท้าย คือ ไปเชือดทิ้งที่ราคา 1.14 บาท โดยในช่วงระดับราคานี้เป็นช่วงที่มีวอลุ่มเข้ามาหนาแน่นที่สุดของวัน

แต่ยังดีที่ว่า “เจ้ามือ” ค่อย ๆ กดราคาลง ไม่ได้กดแบบ “ลงลิฟท์”

ระหว่างทาง มีดันราคากลับบ้าง

แต่ในที่สุดก็ลงมาปิดใกล้ระดับ 1 บาท

หุ้น KCE และ HANA ยังถูกนำมาเล่นกันต่อได้อีกเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะ KCE ที่ราคาหุ้นทะลุทำ All-time-high จากที่ถูกมองว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2564 จะออกมาเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 และไตรมาส 1/2564

ข่าวว่า เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ย. 2564 ช่วยดันยอดส่งออกได้ต่อเนื่อง

HANA “ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส” ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าคำสั่งซื้อยังคงแข็งแกร่งมากทั้ง IC และ PCBA

โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์และกระแส 5G ต่างเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตรอบใหญ่อีก 2-3 ปีเป็นอย่างน้อย จึงคาดกำไรไตรมาส 2/2564 จะกลับมาโตสูง

ส่วนวันนี้จะเล่นกันต่อหรือเปล่า ก็ต้องมาดูว่า มีธีมหุ้นอื่น ๆ กลับมาน่าสนใจหรือไม่

หากยังไม่มี ก็มีโอกาสที่จะเล่น KCE กับ HANA กันต่อ

หรือหุ้นตัวอื่น ๆ ที่ราคาอาจจะยังแลกการ์ด และแนวโน้มผลประกอบการ Q2 จะออกมาดี

ตลาดหุ้นในช่วงนี้ น่าจะคงเล่นหุ้นเวียนกันไปแบบนี้

ยิ่งช่วงนี้ต่างชาติขายออกสนุกสนาน

หุ้นกลุ่ม SET50 เลี่ยงได้ เลี่ยงไปก่อน อย่าเผลอเข้าไปรับล่ะ

เพราะไม่รู้ว่าต่างชาติจะหยุดขายเมื่อไหร่

Back to top button