“เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง” ส่ง K-SUSTAIN-UI กองทุนยั่งยืน เสนอขายไอพีโอ 24-28 พ.ค. นี้

“เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง” ส่ง K-SUSTAIN-UI กองทุนยั่งยืนหนึ่งเดียวในไทย ที่สร้างกำไรด้วย LONG – SHORT Strategy เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 24-28 พฤษภาคม 2564


KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) เดินหน้าลงทุนในประเทศไทยสู่ความยั่งยืนทั้งกระบวนการและเป้าหมาย โดยที่ผ่านมาได้นำเสนอกองทุนภายใต้ความยั่งยืนแก่ลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง จากเงินทุนไหลเข้าและกองทุนใหม่ ๆ ในตลาด ล่าสุดเปิดตัวกองทุน K-SUSTAIN-UI (K Sustainable Long-Short Fund Not for Retail Investors) ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่สร้างกำไร ทั้งจากหุ้นที่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นไปสู่ความยั่งยืน โดยเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) 24-28 พฤษภาคม 2564

โดย นางสาวศิริพร สุวรรณการ Managing Director – Financial Advisory Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า KBank Private Banking เทรนด์ลงทุนด้านความยั่งยืนเป็นโอกาสสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว จากหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืนของธนาคารกสิกรไทยที่เน้นเสริมสร้างความสมดุลทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ล้วนมีส่วนสำคัญในการผลักดันแนวคิดการลงทุนในธุรกิจเพื่อความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างยั่งยืน ในขณะที่ทุกเม็ดเงินที่ลงทุนยังสนับสนุนธุรกิจที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

สำหรับในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่าน ธนาคารได้แนะนำกองทุนภายใต้ความยั่งยืนแก่ลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย K-HITK-CHANGE และ K-CLIMATE ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลงทุนอย่างยั่งยืน ไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ บริการทางการเงิน และโอกาสทางการศึกษาเพื่อช่วยยกระดับสังคม และความเป็นอยู่ของคนในสังคมให้เท่าเทียมกันด้วย”

ทั้งนี้ ล่าสุด KBank Private Banking ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัดได้นำเสนอกองทุนใหม่ (K-SUSTAIN-UI) กองทุนยั่งยืนกองแรกของไทย ที่ใช้ LONG – SHORT Strategy เน้นลงทุนสร้างกำไร ทั้งจากหุ้นที่ได้รับประโยชน์และเสียประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงแนวทางในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นไปสู่ความยั่งยืน โดย K-SUSTAIN-UI จะทำการลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Multi-Manager Sustainable Long-Short Fund, Class JPM S2 (perf) (acc) – USD ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

โดยกองทุนหลักมีนโยบายลงทุนใน 5 กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างความเติบโตโดยไม่ทิ้งความเสียหายไว้กับโลก (Sustainability Megatrend) ได้แก่ 1. การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) 2. การดูแลสุขภาพ (Health and Wellness) 3. โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาหรือบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียม (Empowerment) 4. การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Resource Efficiency) 5. เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน (Technology for Sustainability) ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่สามารถปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ จะได้รับประโยชน์จากกำไร และการเติบโตที่มากขึ้น ในขณะที่บริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวได้จะเผชิญกับความเสี่ยงกับการถดถอย และกำไรที่ลดลงของบริษัท

นอกจากนี้ JP Morgan Asset Management ผู้บริหารกองทุนหลัก มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ทั้งการซื้อหุ้น (Long) ที่มีโอกาสเติบโต และการขายหุ้น (Short) ที่มีแนวโน้มราคาลดลง หรือที่เรียกว่า Long – Short Strategy ส่งผลให้กองทุน K-SUSTAIN-UI มีความพิเศษกว่ากองทุนยั่งยืนอื่น ๆ ในตลาดประเทศไทย เนื่องจากไม่เพียงเข้าซื้อหุ้นอย่างเดียว แต่จะซื้อหุ้น (Long) ที่คาดการณ์ว่าจะสร้างผลดำเนินงานได้ดี จากการปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ซึ่งราคา ณ ปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนถึงความเติบโต และจะขายหุ้น (Short) ที่ราคาแพงเกินไปในปัจจุบัน หรือหุ้นที่อาจจะเสียโอกาสจากการไม่ยอมปรับตัว หรือไม่มีความสามารถในการปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดขาลง ด้วยกลยุทธ์นี้ ส่งผลให้สามารถสร้างโอกาสและผลตอบแทนจากทั้งหุ้นที่จะเป็นผู้ชนะและผู้แพ้ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน อีกด้วย

สำหรับประสบการณ์ของ JP Morgan Asset Management ที่สามารถเฟ้นหาผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม มาเป็นผู้จัดการกองทุนย่อย หรือ Sub-Advisor ทั้งหมด 7 กอง 1.ตลาดเกิดใหม่ 2.ตลาดจีน 3.ตลาดยุโรป 4.กลุ่มสุขภาพ 5.กลุ่มสาธารณูปโภค 6.กลุ่มผู้บริโภค เทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม และ7.การมีส่วนร่วมการเปลี่ยนแปลงบริษัทผ่านการถือหุ้น ซึ่งผู้จัดการกองทุนเหล่านี้ จะมาช่วยบริหารการลงทุนภายใต้ 5 ธีมความยั่งยืนที่กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้กลยุทธ์ Long – Short สามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกในทุกวัฏจักร จัดการผ่านช่วงเวลาที่หุ้นมีความผันผวนได้ดี และสามารถทำกำไรจากการขายหุ้น (Short) ได้

“ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Multi-Manager Sustainable Long-Short Fund, Class JPM S2 (perf) (acc) – USD เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 15.53% (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2564) และด้วยกลยุทธ์ Long-Short และความสามารถของ Sub-Advisor ในปี 2563 ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ดัชนีตลาดหุ้นโลก (MSCI World) ปรับลงไปกว่า 21% แต่กองทุนหลักปรับลงเพียง 9.44% เท่านั้น โดย KBank Private Banking แนะนำให้ลงทุนในระยะยาว เนื่องจากยิ่งลงทุนระยะยาว และลงทุนผสม จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และช่วยโลกยั่งยืนได้อีกด้วย” นางสาวศิริพร กล่าว

ทั้งนี้ K-SUSTAIN-UI สำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น เสนอขาย วันที่ 24-28 พฤษภาคม 2564 สอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมติดต่อไพรเวทแบงค์เกอร์ที่ดูแลหรือติดต่อ KBank Private Banking Contact Center 02-8888811

กองทุน K-SUSTAIN-UI
1. ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 8+ / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
2. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
3. ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
4. สนใจลงทุน และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทที่จัดการและผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารเดียวในประเทศไทยที่ได้รับคัดเลือกอยู่ในดัชนี DJSI 5 ปีติดต่อกัน ล่าสุดในรายงาน The Sustainability Year Book ประจำปี 2564 จัดทำโดย S&P Global บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้ประเมินผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าดัชนี DJSI ในเชิงลึก และมอบรางวัลด้านความยั่งยืน S&P Global Sustainability Award ให้แก่ธนาคารกสิกรไทย ด้วยคะแนน S&P Global ESG Score สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มธนาคารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ในประเภท Silver Class กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคาร

กองทุน K-HIT
1. K-HIT ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน : การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
2. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
3. ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
4. สนใจลงทุน และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทที่จัดการและผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

กองทุน K-CHANGE
1. K-CHANGE ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
2. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
3. ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
4. สนใจลงทุน และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทที่จัดการและผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

กองทุน K-CLIMATE TRANSITION
1. K-CLIMATE TRANSITION ระดับความเสี่ยงกองทุน : ระดับ 6 / ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน: ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน
2. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า/เงื่อนไขผลตอบแทน/ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
3. ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
4. สนใจลงทุน และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทที่จัดการและผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

จุดเด่นของ 7 ผู้จัดการกองทุนย่อย หรือ Sub-advisor
1. Arisaig Capital: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ เน้นการลงทุนในหุ้นเติบโตและเป็นผู้นำในประเทศเกิดใหม่
2. LyGH Capital: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในประเทศจีน มีความสามารถในการลงทุนหุ้นจีนทั้ง A,Hและ ADRs กองทุนที่บริหารมีผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนี MSCI China 7% p.a. โดยมีความผันผวนค่อนข้างต่ำ
3. Portland Hill Captial: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในกลุ่มประเทศยุโรป และมีประสบการณ์ลงทุนมากกว่า 20ปี เน้นการลงทุนในหุ้นยุโรปด้วย กลยุทธ์ L/S และ Event -driven
4. Asymmetry Global Healthcare: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในกลุ่มสุขภาพ ผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์ทำงานที่ Pfizer
5. Electron Capital Partners: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในกลุ่มสาธารณูปโภค เน้นลงทุนในกลุ่ม Infra และUtility กองทุนที่บริหารมีผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนี MSCI Global Utilities 7% p.a. โดยมีความผันผวนค่อนข้างต่ำ
6. Tremblant Capital: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในกลุ่มผู้บริโภค เทคโนโลยี สื่อ และโทรคมนาคม ผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์ทำงานที่ P&G
7. Ancora Advisors: ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนที่เน้นการมีส่วนร่วมการเปลี่ยนแปลงบริษัทผ่านการถือหุ้น

เกี่ยวกับ KBank Private Banking
KBank Private Banking ให้บริการการบริหารความมั่งคั่งอย่างครบวงจร ด้วยมาตรฐานระดับสากล แก่ลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนกับธนาคาร ตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป โดยให้บริการในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษา สร้างความเติบโต และส่งต่อความมั่งคั่ง ครอบคลุมทุกประเภททรัพย์สิน ทั้งทรัพย์สินทางการเงิน ธุรกิจครอบครัว อสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นๆ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก Lombard Odierส่งผลให้KBank Private Banking สามารถตอบสนองทุกโอกาสการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งมอบความมั่งคั่งที่สมบูรณ์แบบและชีวิตที่ไร้กังวล แก่ลูกค้าคนสำคัญของธนาคาร

Back to top button