GPSC ผนึกพันธมิตร พัฒนานวัตกรรม “G Float” รุกตลาดทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ ครั้งแรกของไทย

นางรสยา เธียรวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนาธุรกิจ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าและพลังงานร่วม จำกัด (CHPP) เปิดเผยว่า วันนี้ (25 พ.ค.64) GPSC ได้ร่วมกับพันธมิตรในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด G Float ที่ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ New Normal เป็นครั้งแรกของไทย ได้แก่ นวัตกรรมทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) ที่พร้อมดำเนินการในเชิงพาณิชย์ เพื่อใช้สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System) ป้อนสู่กลุ่มลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรม ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ เพื่อติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำบนแหล่งน้ำขนาดใหญ่

อนึ่ง จากความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับบริษัทชั้นนำของโลก ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่จะนำไปสู่การบริหารจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ด้วยมาตรฐานและความปลอดภัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ GPSC ได้ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมพลังงานสู่การสร้างสรรค์อนาคตด้วยแนวคิด Smart Energy for Evolving life ที่จะรองรับการเติบโตในอุตสาหกรรมNew S-Curve อันเป็นกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทฯและ กลุ่ม ปตท.

ทั้งนี้ เพื่อรองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงพลังงานโลก ที่หันมาให้ความใส่ใจในการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมส่งผลให้ GPSC เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด ผ่านการดำเนินงานของ CHPP (ถือหุ้น 100% โดย GPSC) ที่จะเป็นหน่วยธุรกิจหลักที่สำคัญ ในการนำนวัตกรรมพลังงานมาเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการไฟฟ้าภายใต้แพลตฟอร์มต่างๆ ที่สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน

สำหรับการพัฒนานวัตกรรมทุ่นโซลาร์ลอยน้ำได้ผ่านการพัฒนา และออกแบบที่มีจุดเด่นให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากการติดตั้งแผงโซลาร์บนทุ่นลอยน้ำที่ใช้นวัตกรรมเม็ดพลาสติก (HighDensity Polyethylene หรือ โพลิเอทิลีนความหนาแน่นสูง) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ที่ได้รับการพัฒนาให้ได้เม็ดพลาสติกที่มีคุณสมบัติพิเศษมีความยืดหยุ่น แข็งแรง ทนทาน สามารถผสมสารป้องกัน UV และขึ้นรูปได้ง่ายเพื่อผลิตเป็นทุ่นลอยน้ำที่มีประสิทธิภาพ มีอายุการใช้งานยาวนาน

นอกจากนี้ CHPP ได้ออกแบบจุดยึดของทุ่นโซลาร์ เพื่อให้มีความแข็งแรงทนต่อสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ทั้งกระแสคลื่นและลมได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ทุ่นลอยน้ำมีความมั่นคงและไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพผลิตไฟฟ้าการออกแบบยังได้คำนึงถึงความสะดวกรวดเร็วในการประกอบทุ่นและง่ายต่อการบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

ส่วน G Float ยังได้ออกแบบให้สามารถรองรับการติดตั้งแผงโซลาร์ขนาดมาตรฐานจนถึงขนาดใหญ่เพื่อรองรับกับแผงโซลาร์ที่จะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักที่มากขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ประกอบต่างๆในอนาคต เทคโนโลยี G Float จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมให้โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง มีอายุการใช้งานของวัสดุนานถึง 25 ปี ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมีความปลอดภัยต่อระบบนิเวศใต้น้ำ โดยผ่านการทดสอบ Food Contact ขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (US FDA)

อย่างไรก็ดี ผลิตภัณฑ์ได้ถูกนำไปใช้แล้วในโครงการที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้ เช่น โครงการเมืองอัจฉริยะ ให้กับสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายการติดตั้งโซลาร์บนหลังคาและโซลาร์ลอยน้ำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (อยู่ระหว่างการดำเนินการ) โดยการผสานนวัตกรรมพลังงานอัจฉริยะ (SmartEnergy) ทั้ง BESS , Peer-to-Peer Energy Trading และ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

ทั้งนี้ รวมถึงโครงการความร่วมมือกับกลุ่ม ปตท. ในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดลอยน้ำทะเล (FloatingSolar on sea) ขนาด 100 กิโลวัตต์ ในพื้นที่ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (PTT Tank) ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองจังหวัดระยอง เป็นต้น