โบรกฯ มอง SET มิ.ย.สดใส แนะจับตา 3 ประเด็นสำคัญ พร้อมชู 11 หุ้นเด่นเก็งฯ ไตรมาส 2 กำไรโต

เริ่มเข้าสู่การลงทุนในช่วงเดือนมิ.ย.2564 ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมกลยุทธ์การลงทุนพร้อมปัจจัยที่ต้องจับตาในการลงทุนมานำเสนอ โดยอาศัยบทวิเคราะห์จากบล.เอเชีย  เวลท์ และ บล.เคทีบีเอสที ซึ่งได้วิเคราะห์ไว้ดังนี้

โดย บล.เอเชีย  เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินกรอบ SET ในเดือน มิ.ย. 2564 ไว้ที่ 1,500-1,620 จุด คาดว่า SET จะกลับมาฟื้นตัว จากความหวังต่อการดาเนินการฉีด วัคซีนในประเทศที่เพิ่มขึ้น ตามเป้าหมายของภาครัฐฯ รวมไปถึงความคาดหวังต่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้เชื่อว่า SET มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,564 จุด ซึ่งเป็นระดับที่ SET ปิด ณ สิ้นปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19

อย่างไรก็ตาม Upsides ของตลาดยังคงถูกจำกัดจากปัจจัยเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งของเงินเฟ้อ และการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาจทำให้เกิดความกังวลต่อ การปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาด โดยยังคงต้องติดตามการประชุม FOMC (15-16 มิ.ย.) เพื่อหาสัญญาณการดำเนินการรองรับการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ บล.เอเชีย  เวลท์ เลือกหุ้นเด่นในเดือนมิ.ย. 2564 ได้แก่ BPP, SONIC และ PTTGC

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 โดยก่อนหน้านี้ BPP รายงานการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้า Nakoso (IGGC) ประเทศญี่ปุ่น กำลังผลิต 72.8 เมกะวัตต์ (ตามสัดส่วนการถือหุ้น) โดยจุดเด่นของโครงการดังกล่าวอยู่ที่ Strategic Partner ของญี่ปุ่นที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี Integrated Gasification Combined Cycle (ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงในการผลิต) โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มผลิตในช่วงกลาง เม.ย. 2564 ลดผลกระทบจากการเลื่อนดำเนินการผลิตโครงการ SLG ประกอบกับธุรกิจโรงไฟฟ้าในไทยและภูมิภาค

รวมถึงโรงไฟฟ้า CHPs  ยังอยู่ในช่วง High season ของความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำ เป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการ โดยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 คิดเป็น 24.5% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 ที่คาดไว้ที่ 4,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 และราคาเป้าหมายไว้ที่ 21.80 บาท

บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2564 ที่ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งและนับเป็น 2 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะยังโตต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2564 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่ฟื้นตัว หลังหลายประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ

รวมถึงค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะอยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่องไปจนช่วงครึ่งหลังปี 2564 และธุรกิจ Logis Leasing ยังเป็นไปตามเป้าหมาย และคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้อย่างมีนัยยะในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 อีกทั้งฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากความสามารถในการหาตู้คอนเทนเนอร์เพื่อบริการลูกค้าได้ แม้ในช่วงวิกฤตขาดแคลนตู้ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผน M&A ธุรกิจ คาดว่าจะชัดเจนในช่วงปลายปี 2564 หากเกิดขึ้นจริง จะช่วยยกฐานรายได้ให้โตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ยังคงแนะนำ “ซื้อ” SONIC ราคาเป้าหมายที่ 4.90 บาท

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 จากค่าการกลั่นราคาและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ยังคงแข็งแกร่ง จากภาพรวมเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ทั้งยุโรป สหรัฐฯ และจีน ที่มีการดำเนินการฉีดวัคซีนที่ดี และคาดว่าจะเกิด Herd Immunity (75% ของประชากร) ภายในไตรมาส 3 ปี 2564 โดยปัจจุบันกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมไปถึงกลับมาเปิดเศรษฐกิจ ทำให้เกิด Demand ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น

โดยภาพรวมนับตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ปี 2564 ถึงปัจจุบัน มีปัจจัยบวกจาก (1) Product Spread ที่แข็งแกร่ง ทั้งค่าการกลั่นกลุ่มน้ำมันดีเซล และน้ำมันเตา (VLSFO) ยังคงปรับเพิ่ม (2) P2F ของอะโรเมติกส์ที่ยังคงเพิ่มขึ้น โดยส่วนต่างราคาพาราไซลีนและเบนซีน ปรับเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ 50%เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ (3) ราคาและส่วนต่างราคากลุ่มผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ โดยราคา HDPE เฉลี่ยอยู่ที่ 1,232 เหรียญ เพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน รวมไปถึงส่วนต่างราคา MEG และ PP ที่เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 79% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน

นอกจากนี้ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทจะรับรู้กำไรจากการขาย GPSC อยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท ชดเชยผลจากการรับรู้ Stock gain ที่คาดว่าจะลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 ทำให้ยังแนะนำ “ซื้อ” PTTGC โดยประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 82 บาท

ส่วน บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทย เดือน มิ.ย.คาดสถานการณ์ COVID-19 จะเริ่มคลายตัวลง จากการทยอยฉีดวัคซีน แม้จะทำให้นักลงทุนลดความกังวล แต่ด้วยผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจที่ยังมีอยู่ จะจำกัดกรอบการขึ้นของดัชนีฯไว้ อาจแกว่งอยู่แถวๆ 1620 จุด โดยแนวรับสำคัญของตลาด อยู่ที่ 1550 จุด โดยตัวแปรสำคัญในเดือน มิ.ย. คือ 1.สถานการณ์ COVID-19 , 2.การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และ 3.การประเมินกำไรของหุ้นงวดไตรมาส 2 ปี 2564

ส่วนกลยุทธ์การลงทุน ตลาดเดือนนี้เป็นเดือนของการฟื้นตัว นักลงทุนน่าจะเริ่มทยอยกลับเข้าซื้อหุ้น ทั้งตัวที่อิงกับทิศทางตลาด (ใหญ่และดี) และหุ้นที่ถูกกระทบจาก COVID-19 มาก่อนหน้านี้ (โรงแรม+สายการบิน) แต่ควรตามการประชุม FOMC (16 มิ.ย.) เนื่องจากมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก สำหรับหุ้น Top Picks เดือน มิ.ย. ได้แก่ BCH, BEC, CBG, CENTEL, PSL, SAWAD, SICT และ TIP

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH : คาดกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 จะพุ่งสูงกว่า 900 ล้านบาท จาก COVID-19 แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท

บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC : เรตติ้งดีทั้งข่าวและละคร หนุนกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 โตโดดเด่น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19 บาท

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG : แนวโน้มกำไรเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564 เป็นต้นไป แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 138 บาท

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL : รับอานิสงส์ Phuket sandbox หนุนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยครั้งแรกในรอบ 1 ปีครึ่ง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 38 บาท

บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL : มองเป็นปีทองของกองเรือ โดย BSI Index ทำสถิติสูงสุดใหม่ หนุนกำไร ปี 2564 สูงสุดในรอบ 10 ปี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24 บาท

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD : เตรียมปล่อยสินเชื่อจานาทะเบียนรถ 4 ล้อเพิ่มขึ้น และหนุนให้สินเชื่อขยายตัวสูง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 85 บาท

บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT : มุมมองผลการดำเนินงานปี 2564-2565 สดใส ธุรกิจ Animal ID และ NFC จะเป็น Growth Engine

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP : ประกัน COVID-19 และประกันแพ้วัคซีน COVID-19 จะขายดีเมื่อวัคซีนทางเลือกทยอยเข้ามา