หุ้นนอกกระแส

* หลังจากปล่อยให้หุ้น “ใหญ่ กลาง เล็ก” ออกมาโลดแล่นบนกระดานหุ้นกันอย่างเต็มคราบ พร้อม ๆ กับที่ดัชนีวิ่งขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1,600 จุดอย่างแข็งแกร่ง ก็ถึงเวลาประเมินโอกาสที่ดัชนีจะไปต่อเสียที และเรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับแผนฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าเหมือนที่รัฐบาลคุยโม้ไว้ขนาดไหน? ซึ่งเป็นช็อตที่แฟนคลับต้องทำการบ้านตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อความสบายใจในการเคาะขวานะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* หลังจากปล่อยให้หุ้น “ใหญ่ กลาง เล็ก” ออกมาโลดแล่นบนกระดานหุ้นกันอย่างเต็มคราบ พร้อม ๆ กับที่ดัชนีวิ่งขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญ 1,600 จุดอย่างแข็งแกร่ง ก็ถึงเวลาประเมินโอกาสที่ดัชนีจะไปต่อเสียที และเรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับแผนฉีดวัคซีนมีความคืบหน้าเหมือนที่รัฐบาลคุยโม้ไว้ขนาดไหน? ซึ่งเป็นช็อตที่แฟนคลับต้องทำการบ้านตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อความสบายใจในการเคาะขวานะจ๊ะ

* สำหรับแผนการฉีดวัคซีนคร่าว ๆ ที่หลายคนกำลังเม้าท์แตกจนน้ำลายแตกฟอง ล้วนให้ความสำคัญกับช่วง 4 เดือนนี้เป็นหลัก ไล่ตั้งแต่เดือน มิ.ย. จะฉีดให้ได้ราว 6 ล้านโดส ถัดมาในเดือน ก.ค. ตั้งเป้าจะทำให้ได้ 10 ล้านโดส และในเดือน ส.ค. จะอยู่ในระดับ 10 ล้านโดส ส่วนในเดือน ก.ย. จะอยู่ในราว ๆ  10 ล้านโดส ซึ่งทำให้แผนเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวมีความชัดเจนขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศมีเงินหมุนเวียนอีกครั้งนะนายจ๋า!

* เหล่านี้เป็นข้อมูลที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับฉุกคิดกันสักนิดหนึ่ง เพราะรัฐบาลตู่ไม่เคยทำอะไรได้เหมือนกับที่ตั้งเป้าสักกะอย่าง แถมในช่วงท้ายสัปดาห์ก็มีข่าวลือออกมาเป็นระลอกวัคซีนไม่มาเสียอีก เดี๊ยนถึงมองว่า ต่อจากนี้ดัชนีจะแกว่งตัวฉวัดเฉวียนมากขึ้นอย่างแน่นอน ส่งผลให้การยืนปิดที่ 1,611.53 จุด ลบไป 6.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 แสนล้านบาท แฝงไว้ด้วยอาการขาแข้งสั่นไปหมดไงล่ะคะ

* สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เดี๊ยนเลือกที่จะเม้าท์ถึงหุ้นนอกกระแส เพื่อชี้ให้เห็นโมเมนตัมของธุรกิจในครึ่งปีหลังน่าจะมีอะไรดี ๆ ออกมาให้เห็นเป็นระยะ และเมื่อรวมกับความคึกคักทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า “โมนิก้า” จึงขออนุญาตเชียร์มวยรองเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน เพราะมีสตอรี่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาวนะจะบอกให้

* โดยเฉพาะในรายของ NEX ที่เกาะมากับกระแส EV ถือเป็นทีเด็ดที่น่าจับตามองสุด ๆ เพราะถ้าดูตามแผนของภาครัฐ และภาคเอกชนที่พร้อมใจกันหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า “โมนิก้า” ย่อมมองไทม์ไลน์ของเรื่องราวต่าง ๆ น่าเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป จึงอยากให้แฟนคลับชำเลืองตามองหุ้นตัวนี้ไว้บ้าง เพราะราคาปิดที่ 5.75 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31 ล้านบาท ไม่น่าจะสูงเกินไปสำหรับหุ้นที่กำลังเทิร์นอะราวด์เจ้าค่ะ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้น JR ซึ่งได้ชื่อเป็นหุ้นโกรทดีตั้งแต่ปีนี้ และในปีหน้าก็ยังโกรทต่อเป็นทางเลือกที่สอง หลังผลงานงวดแรกออกมาแจ่มจันทร์ตามคำขอ ส่วนผลงานในงวดสองก็น่าจะสวยเช้งไม่หยอก ขณะที่ครึ่งปีหลังก็คงฉายแววโตเท่าตัวกระมัง! เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินราคาปิดที่ 7.95 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6 ล้านบาท น่าสนใจเหมือนที่เว้าให้ฟังซื่อ ๆ อ๊ะป่าว

* เช่นเดียวกับในรายของ SELIC ประกาศกร้าวว่า ปีนี้โตระเบิดระเบ้ออย่างแน่นอน เพราะทุกหน่วยธุรกิจอยู่ในช่วงรับออเดอร์ซื้อไม่อั้น จึงอนุมานได้ทันทีว่า การขึ้นมายืนปิดที่ 3.80 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 13.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 15 เท่าแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมนำเสนอหุ้นตัวนี้แบบไม่ลังเลใจ ยิ่งเทียบกับ PE ตลาดที่อยู่ในระดับ 30 เท่า ยิ่งโดนใจอย่างแรงนะตัวเอง

* ส่วนรายที่ต้องเดิมพันความสำเร็จในช่วงครึ่งปีหลังอย่างหุ้น WINMED ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ในมุมของคนที่ชอบเรื่องตลาดสุขภาพ เพราะธุรกิจที่หุ้นตัวนี้ทำเกี่ยวข้องโดยตรงกับการตรวจ “เชื้อในเลือด” และ “เชื้อมะเร็ง” รวมทั้งยังมี “ห้องแล็บ” เพื่อทำให้เป็นวันสต๊อปเซอร์วิส มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ 5.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9 ล้านบาท น่าสนใจจริง ๆ พะยะค่ะ

* คล้ายกับในรายของน้าแอ๊ด ADD กระชากขึ้นพรวดพราด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 17.30 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 10.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 298 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้าออกอาการหงอย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับนักเล่นที่เน้นการลงทุนระยะยาว เพราะดิจิทัลคอนเทนต์บนโทรศัพท์มือถือ และเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ก็น่าจะทำให้แวลูสูงขึ้นทุกปีจริงไหมคะ

Back to top button