PRIN มีความเสี่ยงดีลซื้อ KPN มากขึ้นหลังเลื่อนประชุมซื้อหุ้นอย่างไม่มีกำหนด
PRIN การเลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติดีลซื้อหุ้น KPN อย่างไม่มีกำหนด มีผลต่อผลการดำเนินงานปี 58 อย่างมาก เพราะหากไม่สำเร็จในไตรมาส4/58 ก็จะไม่สามารถรับรู้รายได้จากการโอน 2 คอนโดของ KPN ถึง 2.5 พันล้านบาท อีกทั้งหาก PRIN เข้าซื้อหุ้น KPN ได้สำเร็จในปี 59 ก็ได้รับประโยชน์น้อย เพราะมีกำหนดการโอนคอนโดไม่มาก แต่จะไปโอนมากอีกครั้งในปี 60-61 และเมื่อดีลเกิดไม่ทันใน 4Q58 นี้ คาดว่าจะต้องมีการปรับแผนการซื้อหุ้นใหม่
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ก.ย.) ว่า บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN เลื่อนประชุมผู้ถือหุ้นไปก่อนอย่างไม่มีกำหนดเวลาตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2558 วันที่ 28 ส.ค.58 เนื่องจากบริษัทพบว่าการเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้น KPN มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากและเพื่อให้ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีเวลาเพียงพอที่จะทำการศึกษาเพื่อให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมทั้งเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอต่อการตัดสินใจอันจะเป็นประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวมในการทำรายการ บริษัทกล่าวว่าเมื่อมีความคืบหน้า บริษัทจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผู้ถือหุ้นของบริษัทและนักลงทุน ทราบอีกครั้งหนึ่ง
ฝ่ายวิจัยฯมองว่ามีความเสี่ยงต่อผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ เพราะหากดีลการซื้อหุ้น KPN ไม่ทันปีนี้ ก็จะไม่สามารถรับรู้รายได้จากการโอน 2 คอนโดของ KPN ถึง 2.5 พันล้านบาท คือโครงการคอนโด เดอะ แคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาฯ และเดอะ แคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อซึ่งมีกำหนดการจะให้รายได้เข้ามาประมาณ 4Q58 ที่มูลค่า 2.5 พันล้านบาท แต่พอถึงปีหน้าจะมีรายได้จาก 2 โครงการดังกล่าวเหลิอเพียง 388 ล้านบาท ส่วนอีก 2 โครงการ เดอะ ดิโพลแมท สาทร และ เดอะ ดิโพลแมท 39 กว่าจะเริ่มให้รายได้จะเป็นปี 60 และ 61 ตามลำดับ
หากดีลเกิดไมทันในไตรมาส 4/58 นี้ คาดว่าจะต้องมีการปรับแผนการซื้อหุ้นใหม่ ตามกำหนดการเดิมการขำระค่าหุ้นและเงินทุนที่ใช้ คือ 1) ใช้การแลกเปลี่ยนหุ้น (share swap) จะมีการออกหุ้นเพิ่มทุนของ PRIN ให้จำนวน 960 ล้านหุ้นให้กับกลุ่ม KPN ที่ราคาหุ้นเพิ่มทุน PRIN หุ้นละ 2.10 บาท หรือ 2,016 ล้านบาท ที่อัตราการสว็อป 1 หุ้นของ KPNGC ต่อ 240 หุ้นใหม่ของ PRIN และ 2) ชำระเป็นเงินสดอีกจำนวน 2,016 ล้านบาท ซึ่งมาจากการที่ PRIN ออกหุ้นเพิ่มทุนขาย PP อีก 960 ล้านหุ้นให้กับนักลงทุนไม่เกิน 50 ราย ที่ราคา 2.10 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้มีเงื่อนไขบังคับก่อนที่จะต้องทำให้สำเร็จหลายประการ เช่น ที่ประชุมคณะกรรมการ และผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติเรื่องนี้ และ KPNH พอใจการทำ Due Diligence เป็นต้น ดังนั้นหากดีลล่าช้าออกไป และ PRIN ไม่ได้ประโยชน์จากการโอน 2 คอนโดข้างต้น ก็คาดว่าเงื่อนไขข้างต้นอาจจะเปลี่ยนไป รวมทั้งราคาหุ้นปัจจุบันก็ต่ำกว่าราคาเพิ่มทุนอยู่ 13%
ถอดกำไรจาก KPN ในงวดปีนี้และปีหน้าออกไปก่อน เพื่อป้องกันความเสี่ยง จำนวน 375 และ 58 ล้านบาท ตามลำดับ และยังจะไม่มีการสว็อปหุ้นเพิ่มทุน PRIN กับ KPN พบว่ากำไรหลักปี 58 และ 59 จะเหลือน้อยมากเป็น 41 และ 47 ล้านบาท ตามลำดับ นั่นคือ กำไรจะลดลงไปถึง 90% จากประมาณการเดิมปีนี้และ 62% จากประมาณการเดิมปีหน้าและหากเปรียบเทียบในแง่ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนพบว่าปี 58 กำไรหลักลดลง 61% และปี 59 จะกลับมาฟื้นตัว 15%
คงคำแนะนำในเชิงลบคือ เต็มมูลค่า ราคาพื้นฐานใหม่กลับมาลดลงเป็น 1.58 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/BV ปี 58 ที่ 0.5 เท่า ราคาปิดมีส่วนลดได้อีกถึง 14% สำหรับ P/E ปี 58 และ 59 ของ PRIN อยู่ในระดับแพงเป็น 61.0 และ 49.1 เท่า ตามลำดับ แม้ว่าในเชิงของ P/BV อยู่ในระดับต่ำปี 58 เป็น 0.6 เท่า แต่ก็มีการซื้อขายมาในลักษณ์นี้มานานแล้ว เนื่องจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาลดลงมาอย่างต่อเนื่อง อันมีผลพวงมาจาก ยอดขาย ยอดโอน การเปิดขายโครงการใหม่ล่าช้ากว่าแผน รวมทั้งมักมีปัญหาเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการ