NOK มั่นใจเจ้าหนี้โหวตผ่าน “แผนฟื้นฟู” เล็งเช่าเครื่องบินรับเปิดประเทศ

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการไปแล้วตั้งแต่ 17 พ.ค.ระหว่างนี้รอเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดหมายประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ คาดว่าจะมีการประชุมภายในเดือน ส.ค.นี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูฯ โดยมีเกณฑ์ว่าเจ้าหนี้ต้องโหวตเห็นด้วยกับแผนฟื้นฟูกิจการมากกว่า 51% ของมูลหนี้ที่มีสิทธิโหวต

“เรามั่นใจโหวตแผนผ่าน ถ้านับเฉพาะหนี้ที่มีสิทธิโหวต เจ้าหนี้รายใหญ่ มีเจ้าหนี้จากกลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้ให้เช่าเครื่องบิน และกลุ่มซ่อมเครื่องบิน ซึ่งเรามั่นใจเกิน 51% เพราะเราเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้รายใหญ่ได้ทำบันทึกข้อตกลงกันแล้ว” นายวุฒิภูมิ กล่าว

สำหรับเจ้าหนี้รายใหญ่ที่มาจากลุ่มครอบครัวจุฬางกูร มีมูลหนี้ 2,700 ล้านบาท กลุ่มเจ้าหนี้ผู้ให้เช่าเครื่องบิน ซึ่งจะไม่รวมหนี้ในอนาคต ได้เจรจาต่อรองและลงนามบันทึกข้อตกลงว่าในช่วงโควิดจะคิดค่าเช่าตามจำนวนชั่วโมงที่ใช้ ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ จากแต่ก่อนค่าเช่าเครื่องบินของ NOK สูงกว่าตลาด

ด้านกระแสเงินสดของบริษัทไม่มีปัญหา ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยรายจ่ายสำคัญ คือ ค่าเช่าเครื่องบินมากกว่า 30% ของค่าใช้จ่าย แต่ปัจจุบันลดลงได้ ส่วนการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 100 คน โดย 20 กว่าคนเป็นนักบินที่ต้องปรับลดตามการลดจำนวนเครื่องบิน นอกจากนี้มีกล่มุพนักงานบางส่วนที่ leave without pay

อย่างไรก็ดี ขณะนี้สายการบินนกแอร์มีแผนเช่าเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เพิ่มอีกจำนวน 6 ลำ โดยอยู่ระหว่างนี้ขออนุญาตจากกระทรวงคมนาคม และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) จากปัจจุบันมีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 อยู่ 14 ลำ ทั้งนี้ เพื่อนำมารองรับการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศ และเส้นทางต่างประเทศที่เตรียมเปิดประเทศในไตรมาส 4/64 ซึ่งสายการบินนกแอร์ก็คาดว่าจะเริ่มบินในเส้นทางต่างประเทศได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรสายการบินหลายรายเพื่อร่วมมือในรูปแบบ Code Share ซึ่งสายการบินนกแอร์จะรับช่วงบินต่อในประเทศ อาทิ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังภูเก็ต หลังจากครบ 14 วันก็จะสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวหัวเมืองอื่นได้

ทั้งนี้ เส้นทางต่างประเทศที่สายการบินนกแอร์พร้อมเปิดบริการบินได้ อาทิ เวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น และ จีน

ส่วนการเดินทางในประเทศจะเป็นตัววัดความต้องการของผู้โดยสาร โดยปัจจัยสำคัญ คือ การฉีดวัคซีนโควิดต้องกระจายได้เร็ว ขณะเดียวกันภาครัฐมีการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คต์ การนำเข้า-การส่งออก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย

“เราคาดหวังโควิดจะหมดในปีนี้ แต่ตอนนี้เห็นว่าโควิดน่าจะยังมีต่อในปี 65 แต่ผลกระทบจะลดลงเรื่อยๆ เริ่มมีความเชื่อมั่น และมีกำลังซื้อกลับมา ส่วนตัวแผนฟื้นฟู เราทำแผนแบบ Conservative” นายวุฒิภูมิ กล่าว

สำหรับการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 มีผลกระทบต่อบริษัทมาก โดยยอดขายหายไป 90% จำนวนผู้โดยสารหายไปมากกว่าระลอก 2 แต่บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการดำเนินการได้ ขณะที่วันนี้พนักงานนกแอร์ทยอยรับการฉีดวัคซีนแล้ว คาดว่าในวันที่ 24 มิ.ย.64 จะฉีดได้ครบตามจำนวนพนักงานที่มี 1,400 คน

ทั้งนี้ ปัจจุบันก็เริ่มมีการจองตั๋วล่วงหน้าเข้ามาแล้วเพิ่มขึ้นแล้วหลังจากรัฐบาลเร่งการฉีดวัคซีน ดังนั้น ในเดือน ก.ค.64 ความต้องการเดินทางเข้ามามากขึ้น สายการบินนกแอร์จะทยอยเพิ่มความถี่ เส้นทางในประเทศ 23 จังหวัด จึงเชื่อมั่นว่าในครึ่งหลังปีนี้ผู้โดยสารเริ่มทยอยกลับมา อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จะกลับมาดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าจะสูงกว่า 85% ในไตรมาส 4/64 จากปกติมี Cabin Foctor จะขึ้นไปถึง 90%

ขระที่ราคาหุ้น NOK ที่ตลาดเปิดให้ซื้อขายหลังปลด SP วันแรกเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาหุ้นวิ่งพุ่ง 100% นั้น เชื่อว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่น NOK ที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต