SAWAD มั่นใจสินเชื่อปีนี้โตเข้าเป้า 20% ชูพันมิตรแกร่ง-รุกขยายฐานลูกค้าทั่วปท.
SAWAD มั่นใจสินเชื่อปีนี้โตเข้าเป้า 20% ชูพันมิตรแกร่ง-รุกขยายฐานลูกค้าทั่วปท. ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ปีนี้ยังให้อยู่ในช่วง 4-5%
นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ SAWAD นำเสนอข้อมูลแผนธุรกิจและแนวโน้มผลประกอบการ ในช่วงที่เหลือปี 2564 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 8 มิ.ย.2564
สำหรับ SAWAD กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน 2) สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ 3) บริหารสินทรัพย์ 4) รับจ้างติดตามหนี้ 5) บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ
โดยสิ้นไตรมาส 1/2564 บริษัทมีสาขาประมาณ 4,797 สาขา แต่เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา หนึ่งในบริษัทลูกของเราคือเงินสดทันใจมีพาร์ทเนอร์ใหม่ คือ ธนาคารออมสิน ดังนั้นจากสาขาจำนวนดังกล่าวยังไม่รวมสาขาเล็กๆ Kiosk เข้าไปตั้งอยู่ในธนาคารออมสินเพื่อรองรับลูกค้าถ้ารวมกันก็จะประมาณกว่า 5,000 สาขา
สำหรับพอร์ตสินเชื่อปี 64 ตั้งเป้าเติบโต 20% ในส่วนของกลุ่มบริษัทสิ้นไตรมาส 1/2564 พอร์ตลูกหนี้อยู่ที่ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท โดยหลักๆการเติบโตจะมาจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ,สินเชื่อจำนำที่ดิน และจากบริษัทน้องใหม่จากบจก. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล (เอสแคป) และ บจก.เอส ลีสซิ่ง ขณะที่การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความต้องการสินเชื่อบ้างในระดับหนึ่ง
โดยในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าการเข้ามาขอสินเชื่อของลูกค้าชะลอตัวลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าในช่วงไตรมาส 2 ค่อนข้างคึกคักมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปกติจะเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้สินเชื่อไม่สูง และคาดจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2564 และจะเริ่มมีลูกค้ากลับเข้ามาขอสินเชื่อมากขึ้น น่าจะทำให้พอร์ตสินเชื่อและภาพรวมของผลการดำเนินงานของบริษัทกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น
ด้านกลยุทธ์บริษัทก็ยังเน้นกระจายความเสี่ยงธุรกิจด้วยจำนวนสาขากว่าห้าพันสาขาที่กระจายอยู่ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัดทั่วประเทศ อาทิเช่น ทุกปีจะมีน้ำท่วมและภัยแล้งเกิดในพื้นที่ใดสิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหาภัยพิบัติ และการที่บริษัทมีสาขาทั่วประเทศไทยทำให้สามารถกระจายความเสี่ยงจากภัยพิบัติเหล่านี้นไปได้ นอกจากนั้นบริษัทยังเน้นธุรกิจดูแลลูกค้าด้วยความเร็ว เช่น ลูกค้าที่ต้องการมาจำนำทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาที แต่ถ้าลูกค้านำเอกสารมาครบ และนำตัวรถมาด้วยบริษัทก็จะให้บริการและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าทันที
ส่วนแผนการร่วมทุนกับ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ในการดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) อยู่ระหว่างการมองหาทรัพย์ที่มีความน่าสนใจ ซึ่งบริษัทจะมีการเข้าไปซื้อทรัพย์เข้ามาบริหาร และนำมาพัฒนาต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ทรัพย์ที่บริษัทสนใจจะเป็นที่ดิน หรือโครงการขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนาแล้ว ซึ่งสามารถนำมาบริหารและพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต
ด้านสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทในปีนี้ยังควบคุมให้อยู่ในช่วง 4-5% จากไตรมาส 1/64 ที่อยู่ที่ 4.22% โดยที่ลูกค้าของบริษัทมีบางรายได้รับผลกระทบจากโควิด-19 บ้าง แต่ถือว่ายังมีสัดส่วนที่น้อย และบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ระดับ NPL ของบริษัทยังอยู่ในระดับที่เหมาะสมและบริหารจัดการได้ และในส่วนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบบริษัทก็มีการช่วยเหลือลูกค้าและมีมาตรการออกมาให้กับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถกลับมาชำระคืนหนี้ได้หลังจากสถานการณ์ดีขึ้น
ส่วนการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อของกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ถือเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูงและบริษัทไม่มีความกังวลกับคู่แข่งแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป และด้วยขนาดบริษัทและพาร์ทเนอร์ที่มีทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสินเชื่อแบบมีหลักประกันรายใหญ่ นอกจากนี้ยังมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ดังนั้นบริษัทจึงมีความมพร้อมสูงในการแข่งขันทุกรูปแบบ และสามารถเติบโตตามแผนและทีมผู้บริหารบริษัทได้วางไว้อย่างแน่นอน