BOI เผยผลศึกษาเชิงลึกในการทำธุรกิจ หนุนลงทุนตลาดใหม่ 4 ประเทศ

BOI เผยผลศึกษาเชิงลึกในการทำธุรกิจ หนุนลงทุนตลาดใหม่ 4 ประเทศ


น.ส.ชลลดา อารีรัชชกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า วันที่ 12 ตุลาคม 2558 บีโอไอจะนำเสนอผลการศึกษา “โอกาสการลงทุนไทยในประเทศตลาดใหม่: ไนจีเรีย คีร์กิซสถาน บังกลาเทศ และปากีสถาน” ที่โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด

โดยผลการศึกษาครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล ขั้นตอนและระเบียบการลงทุน เพื่อให้นักลงทุนไทยได้ข้อมูลพื้นฐานทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ตลอดจนขั้นตอนการทำธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถ และสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ 

ภายในงานจะมีการเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำธุรกิจจากนักลงทุนไทยที่ได้เข้าไปลงทุนในประเทศตลาดใหม่ เพื่อนำเสนอโอกาส รวมทั้งข้อมูลเชิงลึกของการลงทุนแยกเป็นรายอุตสาหกรรมเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้ประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญยังพบว่ากลุ่มประเทศตลาดใหม่ทั้ง 4 ประเทศนั้น มีศักยภาพในการเป็นตลาดรองรับสินค้าและบริการ รวมไปถึงการลงทุนจากประเทศไทยในอนาคต เพราะอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ วัตถุดิบ และแรงงาน และยังป็นกลุ่มประเทศที่ตลาดกำลังขยายตัวและมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง

สำหรับประเทศไนจีเรีย เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจการเกษตร โดยมีผลิตผลทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ข้าว อ้อย เป็นต้น รวมไปถึงการทำเหมืองแร่ ขณะที่อุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยจะมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป โดยพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเข้าไปลงทุนเพาะปลูกหรือการจัดตั้งโรงงานเกษตรและอาหารแปรรูปในไนจีเรีย ได้แก่ บริเวณทางตอนใต้และตอนกลางของประเทศ

ส่วนสาธารณรัฐคีร์กีซ จากการศึกษาพบว่า อุตสาหกรรมที่นักลงทุนไทยจะมีโอกาสและความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุนมากที่สุด คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรม รวมไปถึงในส่วนของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรมที่อาศัยความได้เปรียบจากการที่สาธารณรัฐคีร์กีซมีภูมิประเทศที่หลากหลาย และมีทัศนียภาพสวยงาม  ส่งผลให้สามารถดำเนินการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ

สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ พบว่าอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสในการเข้าไปลงทุนทำธุรกิจ ได้แก่ อุตสาหกรรมเพาะปลูก อุตสาหกรรมการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้แรงงานในการผลิต อาทิ   อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนี้ ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและภาคบริการบางส่วนที่เกี่ยวข้องของบังกลาเทศเริ่มมีการขยายตัวและมีศักยภาพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากนโยบายภาครัฐ ประกอบกับทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศที่มีความสวยงาม ยังไม่ถูกทำลาย และเหมาะแก่การท่องเที่ยว

สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน พบว่า ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในอุตสาหกรรมเพาะปลูก อุตสาหกรรมการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร อุตสาหกรรมประมงและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้แรงงานเป็นจำนวนมาก โดยพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเข้าไปลงทุน ได้แก่เมืองการาจี และเมืองละฮอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มาก

Back to top button