“ทรีนีตี้” ชี้ LEO ยอดส่งออก-นำเข้า “จีน” โต มั่นใจกำไรปีนี้ 118 ลบ. อัพเป้าใหม่ 11 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.64) โดยมองว่า บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO มียอดส่งออกประเทศจีนเติบโตกว่า 28% เทียบจากงวดเดียวของปีก่อน โดยการรายงานยอดส่งออกและนำเข้าของประเทศจีนเดือนพฤษภาคม 2564 เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 28% เทียบจากงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบหลายปี

โดยการส่งออกของประเทศจีนที่เติบโตขึ้นนั้นมาทั้งกลุ่มยุโรป และประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแรงหลังจากที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มประเทศในยุโรปเริ่มมีการคลายล็อกดาวน์ และประชาชนสหรัฐอเมริกา เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้น และในอีกหลายๆ ประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์

ทั้งนี้ จากข้อมูล Shanghai Container Index ยังคงทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทำจุดสูงสุดที่ 3,600 จุด หรือเพิ่มขึ้น 17% เทียบจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งประเมินว่าแนวโน้มจะยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีหลัง จากสัญญาณการฟื้นตัวในหลายประเทศที่เริ่มมีการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณการบริโภคสินค้าและกิจกรรมการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ทาง “ฝ่ายวิจัย” ประเมินว่า LEO จะได้รับประโยชน์จาก Container Index ที่ปรับตัวสูงขึ้น และปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการขนส่งทางเรือจะมีมากขึ้นตามการค้าระหว่างประเทศที่เริ่มดีขึ้น นอกจากนี้กำไรขั้นต้นต่อตันที่บริษัทได้รับก็จะปรับขึ้นตาม Container Index ที่สูงขึ้นเช่นกัน เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นมาเป็น 118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการเพิ่มขึ้นด้วยทิศทางของ Container Index ที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่นับรวมรวม upside จากการร่วมธุรกิจกับ China Post ที่จะเริ่มเข้ามาในครึ่งปีหลังนี้

อย่างไรก็ตามยังคงแนะนำ “ซื้อ” และอัพราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 11.00 บาท PER ที่ 30 เท่า ซึ่งเมื่อคิดเป็น PEG ปี 2564ยังต่ำที่ 0.3 เท่า และราคาดังกล่าวยังไม่ได้รวม upside จากการร่วมธุรกิจกับ China Post ที่ประมาณ 3 บาทต่อหุ้น ถึงแม้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันจะยังเหลือ Upside ไม่มากแต่มีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรปี 2564 ขึ้นจาก Container Index ที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง