สะสม 4 หุ้นอสังหา-รับผลดีภาครัฐฯรอทิศทางเฟด SET บ่ายพักฐานต่อ
SET เช้านี้พักฐานหลังต่างชาติขายสุทธิมากวานนี้และตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวน ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจจีน และรอติดตามประธานเฟดแถลงคืนนี้ ส่วนตลาดหุ้นไทยรับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ แต่หุ้นเด่นเช้านี้เป็นอสังหา-รับเหมา-กลุ่มโรงแรมเตรียมเข้า High Season บ่ายนี้คาดตลาดพักฐานต่อ ให้กรอบ 1,360-1,380 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (24 ก.ย.) อยู่ในช่วงพักฐานหลังต่างชายขายออกมามากวานนี้ และมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบจากความกังวลเศรษฐกิจของจีน หลังจากที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นออกมาไม่ดี
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดพักฐานต่อ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,360-1,380 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อกลุ่มอสังหาฯ อย่าง PS–SIRI-QH และ AP
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมในลักษณะพักฐาน โดยมีประเด็นจากที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากเมื่อวานนี้ และตลาดหุ้นทั่วโลกยังผันผวน ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบจากความกังวลเศรษฐกิจของจีน หลังจากที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นออกมาไม่ดี อย่างไรก็ดี ต้องติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คืนนี้ว่าจะมีการส่งสัญญาณอย่างไรออกมาบ้าง
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ ทั้ง ADVANC ที่มีประเด็นเรื่องการเรียกค่าความเสียหายของทีโอที ขณะที่หุ้น PTT และหุ้นในกลุ่มพลังงานรับผลลบจากราคาน้ำมันปรับตัวลง รวมถึง SCC ที่ปรับตัวลงแรงจากประเด็นเรื่องปัญหาหนี้ของ SSI ที่ทำให้ SCB อาจต้องขายเงินลงทุนเพื่อลดผลกระทบการตั้งสำรอง
หากตัดหุ้นขนาดใหญ่ที่กดดันตลาดฯไปจะเห็นได้ว่าหุ้นก็ไม่ได้ปรับตัวลงมากเท่าใด ดังนั้นคงต้องเลือกเล่นเป็นรายตัว และเช้านี้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เด่น จากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็ยังแข็งแกร่ง และหุ้นในกลุ่มโรงแรมมีประเด็นการเข้าสู่ช่วง High Season ในไตรมาส 4/58
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดยังมีแรงกดดันอยู่ จึงมีโอกาสพักฐานต่อ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,360-1,380 จุด
ขณะที่ ฝ่ายวิจัยแนะนำหุ้นในกลุ่มอสังหาที่ราคาถูกซื้อขายที่ PE 8 เท่า และ Dividend Yield ประมาณ 5% และรัฐบาลมีโอกาสออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม แนะนำ “ซื้อ” PS ที่เป็นหุ้นที่ได้รับผลดีมากที่สุดกรณีที่ ธอส.เร่งปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ในทางพื้นฐาน PS เป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่ Presale เติบโตทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ รวมไปถึง “ซื้อ” SIRI-QH และ AP
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยเห็นว่าราคาหุ้น SCC ที่ปรับลงมากวานนี้เป็นโอกาสเข้า “ซื้อ” โดยมีแนวรับ 450 +/- บาท ซึ่งทดสอบไปแล้วในช่วงเช้า ซึ่งให้เป้าหมายพื้นฐาน 610 บาท ที่ PE16 11 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญดังนี้
1) ไม่เห็นความเสี่ยงต่อคาดการณ์ผลประกอบการของเรา HDPE-naphtha spreads ยังคงอยู่เหนือ $700/tonne ซึ่งเป็นบวกต่อผลประกอบการของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ในความเป็นจริง HDPE-ethylene สูงขึ้น SCC จะได้ประโยชน์มากขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
2) แม้ราคาปูนซีเมนต์อาจอ่อนตัวลงเล็กน้อยในไตรมาส 3 แต่คาดว่าการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจะยังคงเป็นแรงผลักดันจากไตรมาส 4/15 เป็นต้นไป เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นเรื่องราวในระยะยาว จึงเชื่อว่าเมื่อโครงการเริ่มขึ้น โมเมนตัมจะดีขึ้นต่อเนื่องในอนาคต
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,312.07 ล้านบาท ปิดที่ 460.00 บาท ลดลง 12 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,713.20 ล้านบาท ปิดที่ 9.65 บาท ลดลง 0.35 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 709.17 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 698.17 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
ITD มูลค่าการซื้อขาย 621.21 ล้านบาท ปิดที่ 8.25 บาท ลดลง 0.20 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์