SMT บวกแรง 10% รับยอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าพุ่ง 96% มั่นใจหนุนรายได้-กำไรแกร่ง
SMT ราคาหุ้นบวก 9.73% แตะที่ 6.20 บาท รับอานิสงส์ยอดคำสั่งซื้อล่วงหน้าสูงพุ่ง 96% ของเป้ายอดขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 2.6 พันลบ. โบรกฯเชื่อปีนี้รายได้-กำไรโตแกร่ง แนะซื้อเป้า 8 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (14 มิ.ย.64) ราคาหุ้น บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT ปิดภาคเช้าอยู่ที่ 6.20 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 9.73% สูงสุดที่ 6.35 บาท ต่ำสุดที่ 6.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 252.37 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมสำหรับปี 2564 ของ SMT ที่ 8.00 บาทต่อหุ้น (รวม SMT-W3) มองแนวโน้มกำไรจะเป็นขาขึ้น โดยหลังจากกำไรสุทธิไตรมาส 1/2564 เท่ากับ 51 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นจุดต่ำสุดของปี แต่หลังจากในช่วงที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และจากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยตามแผนการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เริ่มผลิตและส่งมอบไปอีก 3 ถึง 4 ไตรมาสข้างหน้า เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อล่วงหน้า (Booking order) สูงถึง 96% ของเป้ายอดขายในปีนี้ที่ตั้งไว้ 2.6 พันล้านบาท ขณะที่มีลูกค้าอีกหลายรายอยู่ระหว่างพัฒนาเป็น Upside ต่อประมาณการและตลาด ขณะบริษัทมีกำลังผลิตปัจจุบันเหลือมากกว่า 30% ถึง 50% รองรับการเติบโตใน 1-2 ปีข้างหน้า โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งอัตราผลิตที่สูงขึ้นจะทำให้กำไรเติบโตได้เร็วกว่ารายได้ที่สูงขึ้น
ทั้งนี้บริษัทได้เลือกพัฒนาสินค้ากับคู่ค้าในกลุ่มที่เป็น megatrend ของโลกอย่าง Fiber Optics ซึ่งถูกนำไปใช้ใน Data center/Cloud , Sensor สำหรับเทคโนโลยีบนรถยนต์ที่มีความต้องการซื้อมากและมีอายุสินค้าที่ยาวนาน ช่วยลดความเสี่ยงถูกยกเลิกสินค้าเนื่องจากล้าสมัย พร้อมกับยกระดับการให้บริการสู่ PCBA/Box Build ที่เป็นงานระบบมีความซับซ้อนและมีมูลค่ามากกว่า Components/IC สะท้อนต่ออัตรากำไรขั้นต้น 20% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัท และสามารถปรับตัวขึ้นได้จากการต่อยอดสินค้า High technology เช่น EV, LiDAR เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัท คือ การปรับปรุงโครงสร้างภายในทั้งการเปลี่ยนผู้บริหาร เมื่อเดือนเมษายน 2563 ที่รวมถึงการทำงานภายในองค์กร กระบวนการทำงาน และหาลูกค้าใหม่ ๆ ที่มีขนาดธุรกิจมั่นคงและเติบโตไปพร้อมบริษัท ทำให้รายได้ขยายตัวได้ในทุกไตรมาส เช่นเดียวกับผลประกอบการพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ 4 ไตรมาสติดต่อกัน