“ทริสฯ” จัดเรทติ้ง STGT แตะ “A-“ แนวโน้ม “Stable” สะท้อนรายได้มั่นคง
“ทริสฯ” จัดเรทติ้ง STGT แตะ “A-“ แนวโน้ม “Stable” สะท้อนรายได้มั่นคง-กระแสเงินสดแข็งแกร่ง และยังเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตถุงมือยางของโลก
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ที่ระดับ “A-“ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตของบริษัทมีกรอบจำกัดอยู่ที่ระดับไม่เกินกว่าอันดับเครดิตของบริษัทแม่คือ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA (ได้รับอันดับเครดิต “A-/Stable” จากทริสเรทติ้ง) เนื่องจากบริษัทมีฐานะเป็นบริษัทย่อยหลักของ STA
โดยในการนี้ ทริสเรทติ้งพิจารณาให้อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัท (Stand-alone Credit Profile) อยู่ที่ระดับ “a” ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของรายได้และการมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง รวมถึงการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนที่มีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตถุงมือยางของโลกซึ่งมีฐานลูกค้าที่กระจายตัวอยู่ในหลายภูมิภาค พร้อมทั้งมีตัวชี้วัดเครดิตที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์และเป็นมืออาชีพ อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะความเป็นวงจรขึ้นลงและแปรปรวนของราคาต้นทุนวัตถุดิบ รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีความผันผวน และการแข่งขันจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรม
สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงแนวโน้มอันดับเครดิตของ STA ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมถุงมือยางเอาไว้ได้โดยที่บริษัทจะสามารถบริหารความเสี่ยงทั้งที่เกิดจากราคายางธรรมชาติและยางสังเคราะห์รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างระมัดระวัง อีกทั้งยังคงรักษาสภาพคล่องไว้ให้เพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ได้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่าสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยหลักของ STA จะยังคงอยู่ต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคตข้างหน้า
โดยปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง อันดับเครดิตของบริษัทจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกับอันดับเครดิตของ STA แม้ว่าอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถรักษาเสถียรภาพในการสร้างกระแสเงินสดและความสามารถในการทำกำไรเอาไว้ได้ในขณะที่ยังคงรักษางบดุลให้แข็งแรงต่อไปได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็ตาม