โอ๊ย! มันบ่แน่ดอกนายขี่พายุ ทะลุฟ้า
เมื่อก่อน มีเพลงเพลงหนึ่ง ท็อปฮิตเอามากๆ ในราวสัก 4 ทศวรรษล่วงมาแล้ว ชื่อเพลงว่า“มันบ่แน่ดอกนาย” ขับร้องโดยสรวง สันติ
เมื่อก่อน มีเพลงเพลงหนึ่ง ท็อปฮิตเอามากๆ ในราวสัก 4 ทศวรรษล่วงมาแล้ว ชื่อเพลงว่า“มันบ่แน่ดอกนาย” ขับร้องโดยสรวง สันติ
คนชื่อน้อย ตัวใหญ่ก็มากมี คนชื่อมี ทุกข์ยากก็เหลือหลาย คนชื่อบุญหลาย ตายไปเมื่อวานนี้ คนที่ตายก็ต้องเอาไปเผา คนที่ยังก็จงทำความดี…
โอ๊ย! มันบ่แน่ดอกนาย
นั่นก็คือ ท่อนฮุกอันลือลั่นเนื้อเพลงกอดรัดธรรมะแน่น ว่าด้วยอนิจจา วะตะ สังขารา ก็จริง แต่กลายเป็นเพลงฮิตติดลมบนมาจนข้ามหลายทศวรรษ
ก็คงจะเป็นเพราะท่าเต้นในจังหวะร็อค แอนด์ โรล ที่แซ่บเหลือหลายนั่นเอง ประสมประสานไปกับเนื้อเพลงได้อย่างกลมกลืนยิ่ง
ไหนๆ จะเปิดกรุของเก่ากันแล้ว ผมขอขุดเอาวรรณกรรมบนกำแพง เป็นกลอนเปล่าบทหนึ่ง แต่งโดยปราชญ์นิรนาม ที่ผมคัดลอกเก็บไว้นานแล้ว
“คนสำเร็จ ชอบมองหาข้อดีคนอื่น เพื่อใช้ต่อยอดความสำเร็จ คนล้มเหลว ชอบขุดคุ้ยหาข้อเสียคนอื่น เพื่อใช้เป็นหลักฐานว่า ตนไม่ใช่แย่คนเดียว”
ผมว่า มันโดนแฮะ คนล้มเหลว ที่ชอบคุ้ยหาข้อเสียผู้อื่น บางช่วงบางขณะที่ฝุ่นตลบ อาจจะดูเหมือนคนสำเร็จ และคนสำเร็จ ที่ชอบหาข้อดีคนอื่น บางช่วงบางขณะ อาจจะดูเหมือนคนล้มเหลว
แต่คนล้มเหลวก็คือคนล้มเหลว คนสำเร็จก็ต้องเป็นคนสำเร็จอยู่วันยังค่ำ
ในที่สุดแล้ว คนที่เอาแต่กล่าวโทษผู้อื่น ไม่สำรวจตรวจตราตนเอง ต่อให้ใหญ่คับฟ้าอย่างไร ก็ไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงความล้มเหลวไปได้หรอก
บริษัทห้างร้านใด มีเจ้านายแบบนี้ ก็คงต้องเจ๊งปิดร้านลงสักวัน
โลกใบนี้ มีแต่ความไม่แน่นอนเป็นเจ้าเรือน ที่คิดว่า “ร้าย” อาจ “ดี” และที่คิดว่า “ดี” อาจ “ร้าย”
ใครจะคิดบ้างล่ะว่า ทีมเศรษฐกิจหม่อมอุ๋ย ที่ปึ้กปั้กแน่นเหนียวจะตายกับศูนย์อำนาจใหม่ แถมขี่กระแสประชาชนที่ไม่เอานักการเมือง และปฏิเสธนโยบายประชานิยม
แต่ที่ไหนได้ 11 เดือนผ่านไป “หม่อมอุ๋ย” ต้องเก็บเสื้อผ้าออกจากตำแหน่งไปอย่างยับเยินที่สุดในชีวิต
อำนาจพิเศษใดๆ ก็ช่วยฉุดรั้งให้หม่อมอุ๋ยอยู่ในตำแหน่งต่อไปไว้ไม่ได้
อำนาจพิเศษนั้นแหละ ตัดสินใจถอดหม่อมอุ๋ยเอง หาใช่ประชาชนมีส่วน เข้าไปถอดถอนหม่อมอุ๋ยแต่อย่างใดไม่
ชะตากรรมของคนชื่อนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนที่ไปเซ็นแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชานั่นแหละ
ใครก็นึกว่า ต้องติดตะรางแหงแก๋ ไม่มีทางหลุดรอดคดีไปได้หรอก เพราะทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง และป.ป.ช.ตัดสินมาหมดแล้วว่า การลงนามแถลงการณ์ร่วม อาจทำให้เสียดินแดน
นอกจากนั้น ภาคประชาชนที่คลั่งชาติ ก็เคลื่อนไหวปลุกระดมมาโดยตลอดว่า นพดลขายชาติ
แต่แล้ว นพดลก็รอด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินยกฟ้อง นพดลประกาศอโหสิกรรมแก่ผู้มีส่วนปรักปรำใส่ร้ายตนทั้งปวง
นี่เป็นรายการพลิกล็อกมโหฬารครั้งใหญ่เลยทีเดียว
สิ่งที่เห็นต่อหน้าต่อตานั้น อาจเป็นภาพลวงตา เห็นกันมานักต่อนักแล้ว
คนเรายามมีชีวิตอยู่ ก็เบ่งกล้ามโชว์พาวกันไป แต่พอตายไป ไม่เห็นใครจะใหญ่กว่าโลงสักคน
ใดๆ ล้วนอนิจจัง โอ๊ย! มันบ่แน่ดอกนาย