พาราสาวะถี

อะไรทำให้มั่นใจถึงขนาดถึงขั้นที่ทำให้ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ตั้งโต๊ะแถลงการณ์ประกาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย จะเปิดประเทศภายใน 120 วัน เพราะเชื่ออย่างสนิทใจหรือว่าจะได้วัคซีนมาฉีดให้ประชาชนตามเป้าหมายที่วางไว้ และวัคซีนที่ได้มาจะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อยู่หมัด หรือเป็นเพียงการเบี่ยงประเด็นตามไอโอที่ถนัดเพื่อขจัดเสียงวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลว ที่ทำให้คะแนนนิยมต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่ในเวลานี้

การที่จะทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ที่จังหวัดภูเก็ต ตามโมเดลภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ในที่ประชุมศบค.ชุดเล็กก็ยังมีความกังวลอยู่ไม่น้อยว่าจะทำให้เกิดเชื้อเล็ดลอดเข้ามาและจะกระทบไปยังพื้นที่อื่น กรณีเดียวกัน นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ก็ได้แสดงความเป็นห่วงไว้ก่อนหน้า โดยมองว่ายังเร็วไป แต่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจคงพิจารณาในส่วนตรงนั้น ตอนนี้มีการเตรียมการเพื่อเปิดภูเก็ตเพื่อดึงเศรษฐกิจกลับมา

เหมือนที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจยกมาอ้างคือ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ ขณะเดียวกันก็จะมีการปูพรมฉีดวัคซีนในประเทศ โดยที่นักท่องเที่ยวที่รับเข้ามาก็ต้องผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว ซึ่งกรณีนี้หมอประสิทธิ์มองว่า ที่ห่วงไม่ได้เฉพาะคนที่ฉีดวัคซีน แต่ความพร้อมของจังหวัดในการรองรับระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะหากมีคนนอกพื้นที่เข้ามาและมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามา ขอย้ำว่าวัคซีนไม่ได้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ทั้งหมด หากสายพันธุ์แปลกใหม่เข้ามาแล้วคุมไม่ได้ กลไกการจำกัดพื้นที่หรือการควบคุมไม่ได้คู่ขนาน ฉีดวัคซีนครบแล้วปล่อย เป็นสิ่งที่น่ากลัว

ไม่ได้มีเพียงประเด็นวัคซีนเท่านั้นที่เชื่อว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจคงได้รับคำแนะนำอย่างดีมาแล้วจากหมอการเมืองทั้งหลาย ประเด็นเรื่องการกักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งนักท่องเที่ยวและคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศก็เช่นกัน ที่ท่านผู้นำระบุว่านักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว รวมทั้งคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก็ควรเดินทางกลับเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเหมือนกัน

กรณีนี้นายแพทย์ประสิทธิ์ก็เตือนอย่างตรงไปตรงมาว่า โดยปกติการเดินทางเข้ามาประเทศไทยต้องมีการกักตัว 14 วัน แต่หากมองว่าต้องการให้เป็นพื้นที่กระตุ้นเศรษฐกิจ เกรงจะมีการปรับให้ไม่ต้องถึง 14 วันให้สั้นกว่านั้น หากเป็นเช่นนั้นถ้าเป็นบางสายพันธุ์ที่ 14 วันก็อาจไม่พอ อย่างจีนก็กำหนด 21 วันด้วยซ้ำไป คงเป็นสิ่งหนึ่งที่ถ้าไม่ลองไม่รู้ แต่ถ้าลองแล้วเกิดบทเรียนก็ขอให้เป็นบทเรียน เช่นเดียวกับกรณีการเปิดเกาะภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวหากเกิดการระบาดใหม่ในภูเก็ต จะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจในภูเก็ตให้หนักเข้าไปอีก

แต่เชื่อว่าเสียของหมอที่ไม่ใช่หมอการเมืองนั้น คงจะไม่เข้าหูของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ที่เวลานี้ไม่ได้หน้ามืดแค่เรื่องความล้มเหลวในการบริหารจัดการวัคซีนเท่านั้น หากแต่ยังเครียดกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ต้องกู้แล้วกู้อีกจนจะเกินเพดานการก่อหนี้สาธารณะอยู่แล้ว อาการหน้ามืดที่หาเงินไม่ได้แต่ใช้เงินหว่านซื้อคะแนนนิยมมหาศาล สะท้อนผ่านคำพูดที่ว่าหากเปิดประเทศมีความเป็นไปได้ว่าอาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง จะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกัน เมื่อคำนึงถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของประชาชน

ถามกันดัง ๆ ว่าได้สอบถามประชาชนแล้วหรือไม่ว่าพร้อมที่จะเสี่ยงกับขบวนการสืบทอดอำนาจหรือไม่ การอ้างด้วยประโยคที่ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จในการรักษาชีวิตของคนไทยไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก จนประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ถ้าจะหมายถึงการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรกนั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว ลองหันมามองในปัจจุบันและอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงสามารถป้องกันและจำกัดการระบาดได้หรือไม่

ที่กังวลกันอย่างมากในเวลานี้และต้องประเมินสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดคือ สายพันธุ์เดลต้าอินเดีย ที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 137 ราย ที่สำคัญไม่ได้ขีดวงอยู่แค่ในกทม.เท่านั้น โดยมีผู้ป่วยจากสายพันธุ์อินเดียที่ปทุมธานี นครนายก สกลนคร พะเยา อุบลราชธานี เชียงราย เพชรบูรณ์ ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น อุดรธานี เลย และบุรีรัมย์ และความสามารถในการแพร่เชื้อของสายพันธุ์เดลต้าก็มีมากกว่าสายอัลฟ่าอังกฤษที่ระบาดอยู่ในเวลานี้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

นั่นหมายความว่า หากยังมีการแพร่ระบาดแบบก้าวกระโดดของสายพันธุ์อินเดีย ทางการแพทย์โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ติดตามอย่างใกล้ชิด คาดว่าอีกประมาณ 2-3 เดือน อาจจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากขึ้น สัดส่วนครึ่งต่อครึ่งกับสายพันธุ์อังกฤษ นี่คือสิ่งที่สมควรตระหนักเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เป้าหมายการเปิดประเทศ ภายใน 120 วันให้ได้ของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ จึงมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเหนือจากต้องการเบี่ยงเบนความสนใจจากที่ตัวเองและลิ่วล้อตกเป็นฝ่ายตั้งรับ เอาแค่ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ให้รอดปลอดภัยยังต้องลุ้นเหนื่อยอยู่เลย

ยื่นไปแล้วสำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่มีทั้งหมด 5 ร่าง โดยที่ 3 พรรคร่วมรัฐบาลคือประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาก็เสนอไป 8 ร่าง ทั้งหมดจะถูกนำไปประกบกับร่างของพรรคสืบทอดอำนาจที่เสนอโดย ไพบูลย์ นิติตะวัน ทันพิจารณาภายในวันที่ 23-24 มิถุนายนนี้ ทันทีทันใดส.ว.ลากตั้งก็ออกมาแสดงฤทธิ์เดชขู่คว่ำร่างของฝ่ายค้านทันที มิหนำซ้ำ ยังบอกด้วยว่าร่างที่จะผ่านมีเพียงของพรรคแกนนำรัฐบาลเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะวางกลไกทุกอย่างไว้เพื่อการอยู่ยาวแล้ว คงไม่กล้าแสดงอำนาจบาตรใหญ่กันขนาดนี้ นี่ไงชัตดาวน์แช่แข็งประเทศ ไล่เผด็จการรัฐสภาได้สภาเผด็จการเจริญฮวบ ๆ เลยประเทศไทย