“เมย์แบงก์ฯ” คาดครึ่งปีหลัง AEONTS สดใส! เชื่อยอดบัตรเคดิตเพิ่ม-ตั้งสำรองหนี้ลด
“เมย์แบงก์ กิมเอ็ง” คาดผลงานครึ่งปีหลัง 2564/65 AEONTS ดีขึ้น! เหตุสำรองหนี้เสียส่วนเกินลดลง ขณะที่ด้านบัตรเคดิตมั่นใจมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 มิ.ย.64) ว่าในส่วนของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS โดยมองว่าจากการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งคาดการณ์ว่า AEONTS จะลดปริมาณสำรองหนี้เสียส่วนเกิน (LLR) เพื่อรองรับกำไรต่อหุ้นปี 2564 ที่จะเติบโต 10% จากงวดเดียวกันของก่อน ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีในการสะสมหุ้นเนื่องจากมูลค่าปัจจุบันน่าสนใจ โดย PER ปี 2564 ที่ 12 เท่า และ P/BV 2.8 เท่า
ทั้งนี้ทางฝ่ายนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงต่อวันจะช่วยให้การใช้จ่ายผ่านบัตรเคดิตดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 260 บาท บน P/BV ปี 2564 ที่ 3.3 เท่า, PER 16 เท่า และ ROE 21.5% ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์แย่ลงและการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/2564/65 ของ AEONTS จะเติบโต 88% จากงวดเดียวกันของก่อน (จากต้นทุนเครดิตที่ลดลง) แต่ลดลง 16% จากไตรมาสก่อนหน้า (จากการเติบโตของสินเชื่อที่อ่อนแอ) เป็น 996 ล้านบาทในไตรมาส 1/2564/65 คาดการณ์สินเชื่อลดลง 2% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการหดตัวของบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลจากการระบาดระลอกที่ 3 ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า NIM จะลดลง 17.6%, ลดลง 10% จากงวดเดียวกันของก่อน และ 260% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยผลมาจากเพดานดอกเบี้ยที่ลดลง ในแง่บวกคาดการณ์รายได้ non-nii เติบโต 12% จากงวดเดียวกันของก่อน สนับสนุนโดยรายได้ที่ดีจากหนี้สูญได้รับคืน ขณะที่ Opex คาดการณ์จะคงที่ด้วยแผนการลดต้นทุน
ขณะเดียวกันยังคงคาดการณ์ว่าอัตราส่วน NPL จะลดลง 5.5% ใน 1/2564/65 จาก 5.8% ใน 4/2563/64 เนื่องจาก AEONTS เร่งตัดจำหน่ายเพื่อเคลียร์งบดุล โดยบริษัทตัดจำหน่ายในอัตราที่ช้าลงในไตรมาส 4/2563/64 เนื่องจากลูกค้าที่ออกจากโครงการบรรเทาหนี้ (ประมาณ 500 ล้านบาท) กลับมาจ่ายหนี้ได้ ทั้งนี้ทำให้คาดการณ์ว่า AEONTS จะลด LLR ส่วนเกินและ NPL coverage ให้ค่อยๆ ลดลงเป็น 219% ในปี 2564/65 จาก 230% ในปี 2563/64
ทั้งนี้เห็นความเสี่ยงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ซึ่งได้ทบทวนอัตราดอกเบี้ยสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของนักวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่ารายรับปี 2564 ของ AEONTS จะลดลง 1.8% หากผลตอบแทนเงินกู้ลดลง 10% ทั้งนี้ ธปท. ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 2-4% เป็น 16% และ 25% ตามลำดับในเดือน สิงหาคม 2563