ศบค. ปฎิเสธยาแรงล็อกดาวน์ กทม. จ่อใช้แผน Bubble and Seal สกัดโควิดระบาด
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เผย ล็อกดาวน์ ทั้ง กทม.อาจจะเกิดปัญหาเคลื่อนย้ายแรงงาน ไปต่างจังหวัด เน้นใช้มาตรการ Bubble and Seal สกัดการระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 23 มิถุนายน 2564 นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า บุคลากรทางการแพทย์มีข้อเสนอให้ล็อกดาวน์พื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เช้านี้ ได้มีการหารือกันว่าการล็อกดาวน์แม้เป็นเรื่องที่ได้ผลดี แต่ปัจจุบันได้ดำเนินการเป็นเฉพาะจุดอยู่แล้ว คือ เกิดเหตุตรงไหนก็จัดการตรงนั้น เช่น แคมป์ก่อสร้าง, โรงงาน
นอกจากนั้น การจะล็อกดาวน์ ทั้ง กทม.อาจจะเกิดปัญหาให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานออกจาก กทม.ไปยังต่างจังหวัด ซึ่งอาจจะเป็นการไปเพิ่มปัญหาหรือเพิ่มการแพร่เชื้อให้จังหวัดอื่นๆ ได้ ดังนั้น การแก้ปัญหาต้องใช้วิธีผสมผสาน ซึ่งมีข้อสรุปว่า ควรจะใช้มาตรการ Bubble and Seal เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิดในพื้นที่ กทม.แทนการล็อกดาวน์
“การปิดกรุงเทพฯ นั้น คนกรุงเทพฯ จริงๆ ไม่ได้มีมาก ส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากต่างจังหวัด ถ้าปิดกรุงเทพฯ ก็จะมีแรงงานเคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด ซึ่งอาจจะไปเพิ่มการติดเชื้อในต่างจังหวัดให้มากขึ้นได้ ตรงนี้ การแก้ปัญหาต้องผสมผสาน จึงมีข้อสรุปว่าจะทำ bubble and seal” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการ ศปก.ศบค. ได้เน้นย้ำถึงคำนิยามของ “Bubble and Seal” ว่าแนวทางปฏิบัติจะต้องถูกต้องตรงกันในทุกที่ ซึ่งที่ผ่านมา จะเห็นตัวอย่างจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทำได้อย่างดี ดังนั้นจึงอยากให้ กทม.พิจารณาเป็นตัวอย่าง แต่ยอมรับว่า กทม.อาจมีการจัดการที่ยากและซับซ้อนกว่า เนื่องจากจำนวนแรงงานมีมากกว่า สถานประกอบการมีมากกว่า ซึ่งได้ขอให้รองปลัดกทม. ไปดำเนินการแบ่งเขตจัดการในแต่ลพื้นที่ให้เหมาะสม
“ผู้อำนวยการ ศปก.ศบค. ได้กำชับว่า แหล่งรังโรคเกิดขึ้นที่ไหน ให้จัดการเฉพาะที่นั่น ดังนั้น ข้อเสนอที่บุคลากรทางการแพทย์เสนอขึ้นมานี้ จึงนำมาสู่การคิดและปฏิบัติที่ผสมผสาน ภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ต้องไปด้วยกันได้ และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในต่างจังหวัดด้วย” โฆษก ศบค.กล่าว