ขี้ตู่ปักขี้เลน
120 วันเปิดประเทศ ยังไม่ทันนับถอยหลัง ต้องสั่งล็อกดาวน์ 10 จังหวัด 30 วัน ปิดแคมป์คนงาน ห้ามนั่งร้านอาหาร ฯลฯ ทั้งที่ กทม.เพิ่งคลายล็อกให้นั่งกินถึงห้าทุ่ม เมื่อวันจันทร์ที่แล้วนี่เอง
120 วันเปิดประเทศ ยังไม่ทันนับถอยหลัง ต้องสั่งล็อกดาวน์ 10 จังหวัด 30 วัน ปิดแคมป์คนงาน ห้ามนั่งร้านอาหาร ฯลฯ ทั้งที่ กทม.เพิ่งคลายล็อกให้นั่งกินถึงห้าทุ่ม เมื่อวันจันทร์ที่แล้วนี่เอง
แถมออกคำสั่งทีละขยัก วันศุกร์สั่งปิดแคมป์คนงาน “นะจ๊ะ” พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องยังทำตลก ทีแรกบอกไม่ล็อกดาวน์ ตีหนึ่งวันอาทิตย์ออกคำสั่งลักหลับ ชาวบ้านปรับตัวไม่ทัน คนขายอาหารซื้อของมาไว้เหลือบานเบอะ
อันที่จริง ถ้าจะสั่งปิดเมืองไปเลย 14 วันหยุดกิจการที่ไม่จำเป็น งดเดินทาง ฯลฯ ก็เข้าใจได้ เพราะตัวเลขติดเชื้อวันละสี่พัน โรงพยาบาลจะไม่เหลือเตียงรองรับวัคซีนก็ไม่พอ แต่สิ่งที่ประชาชนไม่เข้าใจคือ ทำไมไม่เอาอะไรให้แน่สักอย่าง ทำไมแกว่งไปแกว่งมาไม่กล้าตัดสินใจ เหมือนไม้ผุปักขี้เลน
ความผิดพลาดซ้ำซากทำให้ประยุทธ์เหมือนนักมวยชกแพ้จนเมาหมัด ป้ำเป๋อ รอบแรกรีบปิดเมืองโดยไม่จำเป็น คนตกงาน ฆ่าตัวตาย เดือดร้อนไปหมด รอบหลังกลัวคนด่า อ้าว กลับมาเน้นเศรษฐกิจ จะดึงดันเปิดประเทศให้ได้ไม่ว่ามีคนป่วยคนตายมากแค่ไหน
ไม่เข้าใจจริงๆ นะ รอบตัวประยุทธ์เต็มไปด้วยหมอเก่งๆ เต็มไปด้วยนายพล ฝ่ายเสธ สมช. ทำไมไม่สามารถประเมินสถานการณ์ให้ถูกต้องแกว่งไปแกว่งมา ฟังทางโน้นทีทางนี้ที พอภาคธุรกิจร้อง ชาวบ้านด่า ทำมาหากินไม่ได้ ก็คลายล็อก พอหมอบอกต้องล็อกดาวน์ ไม่งั้นเตียงไม่พอ ก็สวิงกลับ ไม่เคยวางน้ำหนักให้พอดี ไม่สามารถตัดสินใจให้เหมาะกับสถานการณ์
เป็นผู้บัญชาการประสาอะไร สั่งการยุ่งเหยิงสับสนไปหมด โชคดีเท่าไหร่ประเทศไทยไม่เกิดสงคราม ไม่งั้นก็รบแพ้
เหมือนการตัดสินใจเรื่องวัคซีน เมื่อมีไม่พอ มาช้า จะจัดสรรให้ใครก่อน คนสูงวัย กลุ่มเสี่ยง ประกันสังคม จะเน้นกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือจังหวัดท่องเที่ยว จะเอาชีวิตคนหรือจะเอาเศรษฐกิจก่อน สับสนไปหมด
เก่งแต่ใช้อำนาจเผด็จการ ไล่จับไล่ปราบ แต่การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ควรจะชัดเจนเฉียบขาดกลับล้มเหลวหมดความเชื่อมั่น
กระแสตอนนี้จึงเต็มไปด้วยคนโกรธ #ประยุทธ์ออกไป แต่ความพินาศฉิบหายจากโควิดก็ทำให้คนกลัวติดเชื้อ ไม่กล้าออกมาไล่ ม็อบก็มีหลายกลุ่มไม่เป็นเอกภาพ
แต่ฉันทามติของสังคมวันนี้ ชัดเจนว่าไม่เอาประยุทธ์แล้ว ไม่ใช่แค่ม็อบ กระทั่งหมอพยาบาลด่านหน้า “นักรบชุดขาว” ที่รัฐบาลเคยโหน วันนี้ก็เป็นหัวหอกย้อนมาทิ่มแทง เพราะความไม่พอใจรัฐบริหารจัดการห่วย ทำให้หมอรับภาระหนัก เสี่ยงมากกว่าคนอื่น กลับได้วัคซีนซิโนแวคเปรียบเหมือนชาวบ้านบางระจันขอปืนใหญ่ได้ปืนแก๊ป
ไม่ต้องพูดถึงความเชื่อมั่นต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เปิดประเทศ วันนี้ไม่มีใครเชื่อแล้วว่าจะเปิดได้ใน 120 วัน กนง.ปรับลดคาดการณ์จีดีพีเหลือ 1.8 และน่าจะลดลงไปอีก
พรรคพลังประชารัฐวางแผนแก้รัฐธรรมนูญเฉพาะระบบเลือกตั้ง เอาไว้เป็นทางออกเผื่อประยุทธ์ไปไม่รอดก็ยุบสภา ผลออกมาพลิกผัน ส.ว.ตีตกทุกร่าง รวมทั้งร่างของพลังประชารัฐ แล้วไปรับร่างของประชาธิปัตย์แทน ส.ส.พปชร.ก็เลยเอาคืนด้วยการโหวตรับร่างฝ่ายค้าน “ปิดสวิทช์ ส.ว.”
ปรากฏการณ์หลายด้านกำลังชี้ว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่น่าจะเป็นไปตามที่ พปชร.คิดไว้ คือประยุทธ์ไม่น่าจะรอดไปถึงยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรืออยู่ครบวาระ เพราะคนโกรธคนไม่พอใจทบทวีล้นหลาม ไม่ใช่แค่ม็อบราษฎร ไม่ใช่แค่ม็อบไทยไม่ทน หรือประชาชนนกเขา แต่มากกว่านั้น แค่จะปะทุออกมาอย่างไร
ความล้มเหลวปกป้องประยุทธ์ไว้ชั่วคราว เพราะคนกลัวโควิด แต่มีจังหวะเมื่อไหร่ พลังโต้กลับจะท่วมท้น