SET ปิดลบ 4 จุด เซ่นปัจจัย “โควิด” ระบาดยืดเยื้อ แนะจับตาประชุม “โอเปก” พรุ่งนี้
SET ปิดลบ 4 จุด หลังเผชิญปัจจัยการระบาดของ “โควิด” ที่ยืดเยื้อ พร้อมแนะจับตาประชุม “โอเปก” ว่าจะมีการส่งสัญญาณหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปได้หรือไม่
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,587.79 จุด ลดลง 3.64 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 83,598.85 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อยู่ในทิศทางที่อ่อนตัวลง ขณะที่หุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบเกือบ 1% ทั้งนี้ มองว่าหลังจากที่ได้ผ่านครึ่งปีแรก (H1/64) ไปแล้ว ทิศทางตลาดในไตรมาส 3/64 มีปัจจัยเสี่ยงจากการตึงตัวของหุ้นต่าง ๆ ของตลาดทั่วโลก จาก Valuation ที่สูงขณะที่ผลดำเนินงานยังไม่หล่อเลี้ยง และขณะนี้ในเอเชียก็เผชิญการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ และการฉีดวัคซีนโควิดก็อยู่ในอัตราที่ต่ำ ดังนั้นการเติบโตของผลประกอบการอาจไม่สูงอย่างที่ตลาดคาดกัน ทำให้อาจจะต้องมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจในเอเชียลง ส่งผลให้นักลงทุนไม่ไล่ซื้อหุ้นให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
สำหรับตลาดบ้านเราก็มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานในไตรมาส 3/64 ได้ด้วยเช่นกัน เพราะบ้านเราก็เผชิญกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ และรอบนี้ก็มีความเสี่ยงมากที่อาจจะเป็นระลอก 4 จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ ซึ่งได้มองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในครึ่งปีหลังไว้ที่ 1,450-1,643 จุด จะเห็นได้ว่า Upside มีไม่มาก ขณะที่ Downside มีมากกว่า ดังนั้นตลาดฯจึงมีโอกาสที่จะแกว่งลง แต่ก็สามารถเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกได้ โดยหากดัชนีฯลงมาแถว 1,500 จุด หรือต่ำกว่า ก็สามารถเพิ่มน้ำหนักลงทุนได้ ทั้งนี้จะต้องลุ้นให้ดัชนีฯผ่านระดับ 1,600-1,610 จุดให้ได้ก่อน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 ก.ค.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,580-1,565 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,600 จุด ทั้งนี้ดัชนีไม่ควรหลุด 1,565 จุด มิฉะนั้นจะเสียภาพเชิงบวกไป และกรอบการเก็งกำไรก็จะถอยไปด้วย พร้อมให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจับตาจะมีการส่งสัญญาณหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไปได้หรือไม่
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,587.59 ล้านบาท ปิดที่ 77.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,693.18 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
HANA มูลค่าการซื้อขาย 2,318.39 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
RCL มูลค่าการซื้อขาย 2,226.60 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,127.40 ล้านบาท ปิดที่ 118.00 บาท ลดลง 0.50 บาท