B ลั่นกำไรปี 64 โตตามเป้า รุกขยายธุรกิจ “ผลิตน้ำดิบ-พลังงาน” เต็มสูบ

B เดินหน้าโฟกัสธุรกิจ “โลจิสติกส์” เป็นหลักคิดเป็นสัดส่วน 80% ของรายได้รวม เน้นลูกค้ากลุ่ม“อุตสาหกรรม-อาหาร” พร้อมเตรียมรุกธุรกิจให้เช่าพื้นที่วางตู้คอนเทนเนอร์ ด้านสาธารณูปโภค ”ผลิตน้ำดิบ-พลังงาน” รวมทั้งการลงทุนอื่นๆ เป็นการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง หนุนทั้งปีมีกำไรสุทธิตามเป้า


ดร.ปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ B ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทยังให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์เป็นหลัก แม้ที่ผ่านมาบริษัทจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ รวมทั้งกลุ่มสาธารณูปโภคทั้งธุรกิจผลิตน้ำดิบ และธุรกิจพลังงาน แต่เป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งจะเน้นลงทุนในธุรกิจที่สร้างรายได้ทันที

โดยแผนธุรกิจในปี 2564 บริษัทจะให้น้ำหนักการดำเนินธุรกิจอยู่ที่กลุ่มโลจิสติกส์เป็นหลักคิดเป็น 80% ของรายได้รวม และลงทุนด้านสาธารณูปโภคประมาณ 20%

สำหรับภาพรวมของธุรกิจโลจิสติกส์ ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงหลังจากที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร ลดต้นทุนการบริหารจัดการ รวมทั้งเร่งขยายฐานลูกค้าอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ B มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีรถบรรทุกหัวลาก 37 คัน ซึ่งได้มีการใช้งานเต็ม 100% นอกจากนี้จะใช้บริการซับคอนแทรคอีกประมาณ 100 คัน สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของธุรกิจอย่างชัดเจน

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนต่อยอดไปยังธุรกิจให้เช่าพื้นที่วางตู้คอนเทนเนอร์  เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจาหาพื้นที่ คาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ของปีนี้  โดยบริษัทจะเน้นลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มอาหาร เป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตต่อเนื่อง

“บริษัทยังคงเดินหน้าโฟกัสธุรกิจโลจิสติกส์เป็นหลัก และปัจจุบันก็แนวโน้มเติบโตสูง  รถบรรทุกหัวลากของเราวิ่งใช้งานเต็ม 100% ส่วนการลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคต่างๆ เป็นการกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยง เน้นเฉพาะธุรกิจที่มีรายได้ทันที ซึ่งจะทำให้ภาพรวมผลประกอบการของ B มีการเติบโตอย่างยังยืน และคาดว่าผลประกอบการในปี 64 จะมีกำไรสุทธิตามเป้าหมาย” ดร.ปัญญา กล่าว

ส่วนการลงทุนอื่นๆ บริษัทจะเน้นกลุ่มสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน  โดยล่าสุดได้ลงทุนในบริษัท  เทพฤทธา จำกัด  ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำดิบ  สัดส่วน 51% ลงทุนในบริษัท เดอะ เมกะวัตต์ จำกัด รวมทั้งการลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในเวียดนาม   และการลงทุนในบริษัทมูนช็อต เวนเจอร์แคปปิตอล จำกัด  นอกจากนี้ยังลงทุนในธุรกิจรถเช่า โดยบริษัทย่อยถือหุ้น 100% ในบริษัท โซลูชั่นส์ มอเตอร์ส จำกัด  ซึ่งในแต่ละธุรกิจที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนนั้น ต่างก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

Back to top button