รมช.คมนาคม เร่ง ขสมก. สรุปแผนซื้อรถเมล์ไฟฟ้า คาดได้ข้อสรุปในปีนี้

รมช.คมนาคม เร่ง ขสมก. สรุปแผนซื้อรถเมล์ไฟฟ้านำร่อง 500 คัน คาดเสนอเข้า ครม. เดือนพ.ย.58 และได้ข้อสรุปในปีนี้ เผยการประมูลรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ซึ่ง CHO เป็นผู้ชนะมูลยังอยู่ระหว่างการพิจารณา


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะสรุปผลการศึกษาและเปรียบเทียบระหว่างรถเมล์ไฟฟ้ากับรถเมล์ NGV เสนอมายังกระทรวงคมนาคมในเดือนต.ค.นี้ ซึ่งตนจะเร่งนำเรื่องหารือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และคาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในเดือนพ.ย.นี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้แน่นอน

โดยเชื่อว่าจะมีข้อมูลและเหตุผลเพียงพอในการเสนอครม. เช่น ข้อมูลเปรียบเทียบราคารถเมล์ไฟฟ้าที่สูงกว่ารถเมล์ NGV ถึง 3 เท่า ระยะเวลาในการใช้งานและค่าซ่อมบำรุงในระยะ 10-15 ปี ซึ่งรถเมล์ไฟฟ้าจะต่ำกว่ารถเมล์  NGV เป็นต้น

“ราคารถเมล์ไฟฟ้าแพงกว่ารถเมล์ NGV แต่มีข้อดีเรื่องค่าซ่อมบำรุงที่ต่ำกว่าในระยะยาว ซึ่งต้องรอดูแผนขสมก.ก่อน รวมถึงจำนวนที่เหมาะสมในการจัดหา โดยจะต้องอยู่ในกรอบวงเงินที่ครม.อนุมัติ 1.3 หมื่นล้านบาท จำนวน 3,183 คัน ซึ่งเป็นไปได้อาจจะจัดหารถได้น้อยกว่า 3,183 คันซึ่งขสมก.ต้องปรับแผนใหม่ด้วย ในขณะเดียวกัน ขสมก.จะนำรถเก่า 672 คันมาปรับปรุงใหม่ วงเงินคันละกว่า 1 ล้านบาท เพื่อนำมาวิ่งบริการเสริมด้วย”นายออมสินกล่าว

ส่วนการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คันซึ่งกลุ่มบริษัทกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC ที่มี บริษัท ช.ทวีดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เป็นแกนนำ เป็นผู้ชนะมูล ว่า เนื่องจากบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ได้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพ.อ.) ว่ากระบวนการไม่ถูกต้อง  และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทำให้ไม่สามารถลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูลได้  โดยต้องรอผลการพิจารณาของ กวพ.อ. หากตัดสินว่า ไม่ถูกต้อง ขสมก.พร้อมปรับปรุงข้อบกพร่องและเริ่มกระบวนการจัดซื้อใหม่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนสามารถเปิดประมูลใหม่ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้เร่งจัดหารถเมล์ใหม่มาให้บริการโดยเร็ว

ทั้งนี้ได้มีการติดตามความคืบหน้าแผนฟื้นฟูขสมก.ซึ่งพบว่า ขณะนี้ ขสมก.มีภาระหนี้สินสะสมประมาณ 9.2 หมื่นล้านบาท โดยสิ้นปี 2558 จะเพิ่มเป็น 9.6 หมื่นล้านบาทซึ่งปัจจุบันขสมก.มีภาระดอกเบี้ยจ่ายถึง 250 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งถือว่าสูงมาก โดยตามมติ ครม. ที่ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูไว้หากขสมก.สามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนในแผนได้และกระทรวงการคลังพิจารณาพักชำระหนี้หรือยกหนี้ทั้งหมดได้ ขสมก.จะมีกำไรภายใน 6 ปี

สำหรับแผนฟื้นฟู ขสมก.ประกอบด้วยเรื่อง การจัดซื้อ รถเมล์ NGV จำนวน 3,183 คัน,การปรับปรุงเส้นทางเดินรถเมล์,การก่อสร้างอู่จอดรถเพื่อลดค่าเช่าปีละประมาณ 60 ล้านบาท,การเพิ่มบริการทั้งไวไฟบนรถ, การเพิ่มรายได้ต่างๆ การเพิ่มประสิทธิภาพซึ่งขสมก.มีพนักงานจำนวน 13,491 คน เป็นพนักงานขับรถ 5,000 คน พนักงานเก็บค่าโดยสาร 4,000 คน

ด้านนางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า ตามแผนฟื้นฟู ขสมก.นั้นคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปี 2559 โดยขสมก. จะต้องมีการปรับปรุงเส้นทางรถเมล์ใหม่ระหว่าง ขสมก.กับรถร่วมเอกชน ซึ่งขณะนี้สรุปแล้วว่าจะเหลือ 172 เส้นทาง เป็นเส้นทางขสมก. 87 เส้นทาง รถร่วมเอกชน 85 เส้นทางและได้เสนอกระทรวงคมนาคมแล้ว ส่วนกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) พร้อมกับรับโอนสัญญา เดินรถร่วมเอกชนไปกำกับดูแล ทั้งนี้เพื่อให้เห็นการบริหารจัดการที่ขัดเจนของขสมก.หลังจากนั้นว่าจะดีขึ้นอย่างไรบ้าง

สำหรับรถเมล์ไฟฟ้านั้น ตามผลศึกษาจะเสนอจัดซื้อนำร่อง จำนวน 500 คัน เป็นรถชานต่ำ  ประกอบในประเทศ ราคาคันละประมาณ 10 ล้านบาท โดยจะสรุปข้อมูลเสนอกระทรวงคมนาคมเร็วที่สุด

ขณะที่ในวันนี้ รมช.คมนาคมได้ตรวจเยี่ยมพร้อมให้นโยบายในการดำเนินงานกับผู้บริหารขสมก. โดยในข่วงเวลา 9.30 น. ได้มีกลุ่มผู้พิการเครื่อข่ายรถเมล์เพื่อประชาชน ทุกคนต้องขึ้นได้จำนวนกว่า 20 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ นายออมสิน เพื่อคัดค้านแนวคิดการจัดซื้อรถเมล์ชานสูงแทนรถเมล์ชานต่ำ เนื่องจากเป็นการริดลอนสิทธิของคนพิการ ซึ่งทางกลุ่มเครื่อข่ายต้องการให้การจัดซื้อรถเมล์ใหม่ทั้งหมดเป็นแบบชานต่ำเพื่อทำให้เกิความสะดวกในการใช้งานไม่ว่าจะเป็นต่อตัวคนพิการ คนชรา เด็กและคนป่วย โดยนายออมสิน ได้รับข้อเสนอพร้อมทั้งยืนยันว่า จะนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาเพื่อจัดซื้อรถเมล์เพื่อให้ทั้งผู้พิการ ทุกเพศทุกวันสามารถใช้บริการได้

Back to top button