FORTH พุ่งกระฉูด 16% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นผลงานปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่

FORTH พุ่งกระฉูด 16% “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นผลงานปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ แถมตุน Backlog แน่น 2,779 ล้านบาท คาดทยอยรับรู้ปี 64 ประมาณ 80% ส่วนที่เหลือในช่วงต้นปี65


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันนี้(6 ก.ค.64)ราคาหุ้นบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น  จำกัด (มหาชน)  หรือ FORTH  ณ เวลา 16.07 น. อยู่ที่ระดับ 13.30 บาท บวก 1.80 บาท หรือ 15.65% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 168.77 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2549

โดยก่อนหน้านี้นายชัชวิน พิพัฒนโชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร FORTH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2564 คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากปี 2563 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 7,082 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 439 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชันส์ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,779 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2564 ประมาณ 80% ส่วนที่เหลือรับรู้รายได้ในช่วงต้นปี 2565

โดย Backlog ดังกล่าว ประกอบด้วย งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว ของกรมคุมประพฤติ มูลค่า 560 ล้านบาท งานรถโบกี้ปั้นจั่นกล ของการรถไฟแห่งประเทศไทย มูลค่า 798 ล้านบาท งานบำรุงรักษาซ่อมแซมแก้ไขและปรับเปลี่ยนโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสง ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มูลค่า 259 ล้านบาท งานระบบสมาร์ทกริด ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มูลค่า 375 ล้านบาท และงานระบบสื่อสารวิทยุเฉพาะกิจระบบดิจิทัล ของกรมการปกครอง มูลค่า 787 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลงานใหม่ 15 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 12,000 ล้านบาท ประกอบด้วย งานของหน่วยงาน กฟน.และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท งานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงาน 4 โครงการ มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท งานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท และงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม 5 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้งานมากถึง 70-80% ของมูลค่างานดังกล่าว

ส่วนธุรกิจอีเอ็มเอสในปี 2564 คาดว่ารายได้จะดีกว่าปี 2563 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,262 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) จากลูกค้าต่างประเทศเข้ามาประมาณ 500 ล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจสมาร์ท เซอร์วิส มีแผนขยายตู้เติมเงินออนไลน์อัตโนมัติเพิ่ม จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 130,000 ตู้ และเตรียมขยายตู้ e-KYC ยืนยันตัวตนอัตโนมัติ ตู้ถอนเงินอัตโนมัติ และตู้ขายซิมอัตโนมัติ รวมทั้งเตรียมขยายตู้กาแฟอัตโนมัติ หรือคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 3,000-4,000 ตู้ ภายในปี 2564

ในส่วนธุรกิจใหม่ที่บริษัทเข้าไปดำเนินการ คือ สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ซึ่งเป็นที่ชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า 3 แบบ ชาร์ตได้ทั้งรถยุโรปและรถเอเชีย โดยบริษัทเตรียมพร้อมมานานมากแล้ว

รวมไปถึงธุรกิจการบิน ที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องบินขนาดกลาง โดยในปี 2563 สามารถจำหน่ายได้ 1 ลำ นอกจากนี้ บริษัทมีแผนก่อสร้างโรงซ่อมเครื่องบิน ใช้เงินลงทุนประมาณ 600-700 ล้านบาท หลังจากในปี 2563 บริษัท FORTH MRO ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง FORTH ถือหุ้น 75% และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ถือหุ้น 25% ได้สิทธิ์บริหารพื้นที่คลัง 3 ในพื้นที่ดอนเมือง จำนวน 12 ไร่ ระยะเวลา 15 ปี คาดว่าจะใช้เวลาในการรื้อย้ายโกดัง 3 เพื่อทำโรงซ่อมเครื่องบิน 1 ปี หรือประมาณปี 2565 ซึ่งมองว่าในช่วงเวลาดังกล่าวธุรกิจการบินจะฟื้นตัวแล้ว

Back to top button