สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 28 ก.ย.58
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.16 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.32 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1183 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1191 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,352.13 จุด ลดลง 24.70 จุด หรือ 1.79% มูลค่าการซื้อขาย 28,592.05 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,081.71 ล้านบาท (SET+MAI)
– กระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกเดือน ส.ค.58 มีมูลค่า 17,669 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -6.69 โดยติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ขณะที่การนำเข้าเดือน ส.ค.58 มีมูลค่า 16,948 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ -4.77 ส่งผลให้ดุลการค้า เกินดุล 721 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ในช่วง 8 เดือนปี 58 การส่งออกลดลงร้อยละ -4.92 มูลค่า 142,747 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนนำเข้าลดลงร้อยละ -8.18 มูลค่า 137,783 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เกินดุลการค้า 4,964 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
– ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 58 มีความเสี่ยงที่จะติดลบมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนก่อนหน้าที่ประมาณร้อยละ 4.0 โดยความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงยุโรป และเอเชียในภาพรวม ตลอดจนการเคลื่อนไหวในระดับต่ำของราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันจังหวะการฟื้นตัวของมูลค่าการส่งออกของไทยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
– นางกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) แนะจับตาปัจจัยเสี่ยงที่ไทยจะต้องจับตามองทั้งปีนี้ และปี 59 คือ ความผันผวนในตลาดทุน และตลาดการเงิน โดยมีสาเหตุจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่จะส่งผลให้เงินไหลกลับเข้าสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความผันผวนในตลาดการเงิน และตลาดทุน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ตลาดได้คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมากแล้วและเชื่อว่าคงไม่มีอะไรเซอร์ไพส์ ขณะเดียวกัน ต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของจีนที่รัฐบาลจีนมีความตั้งใจที่พยายามลดสัดส่วนการลงทุน และเพิ่มการบริโภคมากขึ้น โดยมีมาตรการต่างๆออกมา โดยให้ธนาคารให้ดอกเบี้ยต่ำสำหรับการบริโภค ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยค่อนข้างมาก
– นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยฐานะการคลังภาคสาธารณะตามระบบ สศค.ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57-มิ.ย.58) ขาดดุลการคลังทั้งสิ้น 43,603 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 0.3 ของ GDP) โดยขาดดุลลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 63.9
– หนังสือพิมพ์อีโคโนมิค อินฟอร์เมชั่น เดลี่ รายงานว่า จีนเตรียมใช้นโยบายมากกว่า 10 นโยบายในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพื่อสร้างเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการสร้างเสถียรภาพการลงทุน นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และส่งเสริมการส่งออก
– นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผย IMF มีแนวโน้มที่จะปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของโลกในปี 2558 และ 2559 เนื่องจากการชะลอตัวลงของประเทศตลาดเกิดใหม่
– นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้คำมั่นสัญญาว่าจะยังคงมุ่งมั่นจัดการกับภาวะเงินฝืด พร้อมกับยอมรับว่าบริษัทเอกชนและภาคครัวเรือนอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นในการปรับตัวให้เข้ากับภาวะเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับดังกล่าวให้ได้ภายในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย.ปีหน้า แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะบรรลุเป้าหมายได้ก่อนหรือหลังช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ
– ธนาคารกลางเวียดนามได้ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสกุลดอลลาร์สำหรับองค์กรและบริษัทต่างๆ ลงเหลือ 0% จากระดับ 0.25% เพื่อสกัดการกักสกุลเงินต่างประเทศ ส่วนเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของบุคคลทั่วไปจะปรับลดลงสู่ระดับ 0.25% จากระดับ 0.75%
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์