MENA ดีดแรง 14% เก็งรับผลงานปี 64 โต โบรกชู P/E ต่ำ เป้าเฉลี่ย 1.56 บ.
MENA ดีดแรง 14% แตะ 2.06 บาท หลังร่วงหนักวานนี้ คาดนักลงทุนเข้าเก็งกำไรรับผลงานปี 64 โตตามแผน ฟากโบรกชู P/E ต่ำ เป้าเฉลี่ย 1.56 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA ณ เวลา 10.25 น. อยู่ที่ระดับ 2.06 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 13.81% สูงสุดที่ระดับ 2.14 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 307.22 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น MENA ปรับตัวขึ้นวันนี้ หลังวานนี้ถูกขายออกมาอย่างหนัก คาดนักลงทุนเข้าเก็งกำไรลุ้นผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้
โดยนางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 64 จะเติบโตกว่าปี 63 แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกระทบกับโครการการก่อสร้างต่างๆให้ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตามมองว่าเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น และหลังจากที่มีการกระจายตัวของวัคซีนเพิ่มขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ก็จะช่วยหนุนให้โครงการก่อสร้างต่างๆกลับมา และในระยะเวลานี้บริษัทได้เคลื่อนย้ายการขนส่งไปยังพื้นที่ที่สามารถดำเนินโครงการก่อสร้างตามปกติเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรทางธุรกิจอีกราว 3-4 โปรเจ็กต์ เพื่อขยายบริการด้านขนส่งไปยังกลุ่มสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นอีกแหล่งรายได้ที่ช่วยสนับสนุนให้ MENA มีการเติบโตเพิ่มขึ้นคาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/64
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนการเสนอขายหุ้น IPO รวมมูลค่า 220.80 ล้านบาท จะนำไปใช้สำหรับลงทุนโครงการในอนาคต 160.80 ล้านบาท รวมถึงนำไปใช้จ่ายคืนหนี้สิน 20 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 40 ล้านบาท สนับสนุนให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และต้นทุนทางการเงินลดลง
ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อที่จะเข้าซื้อหากมีความคืบหน้าบริษัทจะนำเสนอรายละเอียดของการเข้าซื้อกิจการอีกครั้ง
สำหรับบริษัทเองได้มีมาตรการป้องกันโดยให้บุคลากรของบริษัทเข้ารับการฉีดวัคซีนมากกว่า 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดแล้ว และยังคงดำเนินการป้องกันความเสี่ยงด้านการติดเชื้อด้านอื่นๆเพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาต้องหยุดเดินรถขนส่ง
“ต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ MENA โดยบริษัทยืนยันว่าจะมุ่งมั่นขยายงานและต่อยอดทางธุรกิจ โดยโครงการต่างๆที่อยู่ระหว่างเจรจา 2-3 โครงการ คาดจะประกาศความชัดเจนว่าจะเข้าไปร่วมขยายงานส่วนไหนบ้าง แต่ยังขอเวลาเจรจากับผู้ค้าสักระยะก่อน” นางสุวรรณา กล่าว
ด้านนางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ในฐานะแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายมั่นใจหุ้นจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก เนื่องจากราคาในการเสนอขายครั้งนี้ เป็นระดับที่น่าสนใจ สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ หรือ P/E อยู่ที่ประมาณ 20.69 เท่า ถือเป็นระดับราคาที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของบริษัทซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกันกับธุรกิจของบริษัท ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของ P/E เท่ากับ 30.8-31.5 เท่า และบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ 5 บริษัทหลักทรัพย์ มีราคาเหมาะสมเฉลี่ยอยู่ที่ 1.56 บาทต่อหุ้น ซึ่งยังไม่นับรวมโอกาสการเติบโตที่แข็งแกร่งในอนาคต