EPG วอลุ่มแน่น-บวก 3.31% ลุ้นกำไรปี 65 นิวไฮแตะ 1.5 พันลบ. จาก 3 ธุรกิจโตเด่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(12 ก.ค.64) บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG   ณ เวลา 11.07  น.อยู่ที่ระดับ 12.50 บาท อยู่ที่ระดับ 12.50 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.31% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 197.07 ล้านบาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(12 ก.ค.2564) ว่า แนะ”ซื้อ”หุ้น EPG ราคาเป้าหมายที่ 15.00 บาท จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 65 (เม.ย.64-มี.ค.65) ที่จะยังคงโดดเด่นตามคาด

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ EPG ยังคงเป้ารายได้ปี 65 เติบโต 12-15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ GPM ที่ 29-32% (ปี 64 = 31.2%) และการเติบโตของปี 65 ส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากออสเตรเลีย ซึ่ง TJM จะเติบโตโดดเด่นสุด และสหรัฐจากโรงงาน Aeroflex ที่สหรัฐมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 8 พันตัน/ปี จาก 4 พันตัน/ปี โดยจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/65 รวมถึงได้ผลบวกจากต้นทุนวัตถุดิบปิโตรเคมีที่ปรับตัวลง ซึ่งวัตถุดิบหลัก ได้แก่ HDPE และ PP ราคาปรับตัวลง -20% YTD (เทียบต้นปี 65)

ทั้งนี้ ยังประเมินกำไรปกติปี 65 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.5 พันล้านบาท +33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากทั้ง 3 ธุรกิจหลักที่เติบโตดีขึ้น สำหรับกำไรไตรมาส 1/65 จะดีขึ้นต่อเนื่องเป็น 418 ล้านบาท (+452% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จาก Aeroklas และ Aeroflex ที่ยังคงมียอดขายเติบโต และมีการปรับราคาขายขึ้นเฉลี่ย 5%-10% ส่งผลให้ GPM กลับมาปรับตัวดีขึ้นเป็น 32.3%

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและ outperform SET +14% ในช่วง 3 เดือน จากกำไรครึ่งหลังปี 64 ที่ฟื้นตัวได้ดี โดย valuation ปัจจุบันยังน่าสนใจเทรด PER ปี 65 ที่ 22 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต ซึ่งมองว่าราคาหุ้นควรเทรด PER ในระดับ premium จากค่าเฉลี่ยในอดีต จากแนวโน้มกำไรปี 65-66 ที่ยังคงสดใสทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง รวมถึงกำไรปี 65 ยังมีโอกาส upside ได้อีก จากแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบปิโตรเคมีที่อาจลดลงมากกว่าคาด และจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประเมินว่าทุกๆ 1 บาทที่อ่อนค่าจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้นราว 2%-3%

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(12 ก.ค.2564) ว่า บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG  แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท  คาดกำไรปกติไตรมาส 1/2565 (เม.ย.-มิ.ย.64) เติบโตโดดเด่น +11% เทียบไตรมาสก่อนหน้า,โต 312% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากทั้งธุรกิจ Aeroflex ที่เพิ่มขึ้นใน US และ EU การส่งออกของ Aeroklas ที่ดีขึ้น และ EPP โตจากบรรจุภัณฑ์อาหาร ส่วน Margin คาดขยายตัวจาก Utilization Rate ที่สูงขึ้น

คาดโมเมนตัมการเติบโตยังแข็งแกร่งต่อเนื่องโดยเฉพาะธุรกิจฉนวนของ Aeroflex จากการเติบโตของตลาดสหรัฐฯ และมีการเพิ่มกำลังการผลิต 1 เท่าตัวรองรับ ขณะที่บาทอ่อนเป็นบวกเนื่องจาก EPG มีสัดส่วนส่งออก 60% คาดกำไรปี 2565 โต 25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน