“ทีดี ตะวันแดง” ผนึก “โชห่วย” ยกระดับค้าปลีก – พลิกฟื้นศก.ฐานราก
“ทีดี ตะวันแดง” ผนึก “โชห่วย” ทั่วประเทศ ยกระดับร้านค้าปลีกให้ทันสมัย ร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานราก ชูโมเดลธุรกิจ “ร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน”
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีก “ถูกดี มีมาตรฐาน” เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของร้านค้าปลีก “ถูกดี มีมาตรฐาน” ที่มุ่งสร้างมาตรฐานวงการร้านค้าปลีกชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ด้วยการยกระดับมาตรฐานร้านค้าปลีกให้ทันสมัยด้วยความรู้ และเทคโนโลยีการบริหารจัดการร้าน โดยชูโมเดล “ร้านค้าของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน” ร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ ที่สนิทใจลูกค้า เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
สำหรับโมเดลธุรกิจของร้านถูกดี มีมาตรฐาน บริษัทฯ มุ่งแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพลิกฟื้นธุรกิจโชห่วย เพื่อก้าวสู่ “คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกค้าปลีกในประเทศไทย” ร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสให้กับการค้าชุมชนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ตั้งแต่เจ้าของร้านโชห่วย คู่ค้า ที่สามารถเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายสินค้า ผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่จะมีช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านร้านถูกดี มีมาตรฐาน รวมถึงคนในชุมชนที่สามารถเข้าถึงสินค้าดี มีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญคือการมีส่วนช่วยให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพให้คนจำนวนมาก จากการขยายตัวของร้านค้า และคลังสินค้า กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย สร้างการหมุนเวียนเศรษฐกิจของคนในชุมชนจากเมืองไปสู่ชนบทได้อย่างทั่วถึง ทำให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถือเป็นธุรกิจที่จะสร้างความหวังให้กับสังคมไทย ท่ามกลางภาวะวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อกระทบต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน และรายได้ของคนไทยในวงกว้าง ช่วยยกระดับการค้าระดับชุมชน และพลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้ดีขึ้น
นายเสถียร กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทดลองพัฒนาคอนเซ็ปต์ร้านค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ “ถูกดี มีมาตรฐาน” มาตั้งแต่ปี 2562 โดยผนึกความร่วมมือกับเจ้าของร้านโชห่วยต่างๆ เข้าไปช่วยพัฒนาทั้งด้านสินค้า อุปกรณ์ ความรู้ และเทคโนโลยี ให้ร้านค้ามีระบบการบริหารจัดการที่ดี หน้าร้านที่สวยงาม ทันสมัย พร้อมร่วมกับคู่ค้าต่างๆ จัดรายการส่งเสริมการขาย และสื่อโฆษณา ณ จุดขาย เพื่อสนับสนุนการขายให้ร้านโชห่วย สร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ สามารถต่อยอด และแข่งขันกับธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ได้
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ และทดลองโมเดลดังกล่าวมากว่า 2 ปี เริ่มจากจังหวัดนครปฐม ขอนแก่น อุดรธานี ขยายไปยังภาคเหนือ และภาคกลาง พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี สามารถเพิ่มรายได้ให้กับโชห่วย จากเดิมที่ขายสินค้าได้ 3-5 พันบาทต่อวัน เพิ่มเป็นมากกว่าหมื่นบาทต่อวัน สามารถช่วยเจ้าของร้านฝ่าวิกฤตต่างๆ สร้างชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถือเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสวนกระแส ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยโมเดลที่ตอบโจทย์ชุมชนได้อย่างแท้จริง ทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตร เจ้าของร้านโชห่วยได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน
โดยข้อได้เปรียบสำคัญของร้านถูกดี มีมาตรฐานคือ ความเป็นเจ้าของร้านในพื้นที่ ทำให้สามารถเข้าใจ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่เป็นอย่างดี นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีความแตกต่างจากร้านค้าปลีกอื่นๆ คือการมีการนำสินค้าท้องถิ่นชื่อดัง หรือสินค้าที่มีจุดเด่นน่าสนใจในแต่ละพื้นที่ นำเข้ามาจำหน่ายในร้าน เพื่อเพิ่มจุดขาย และสร้างความแตกต่างจากร้านค้าปลีกอื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้ากว่า 1,000 ร้านค้า โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายขยายเป็น 8,000 ร้านค้า ในปี 2564 และเพิ่มเป็น 30,000 ร้านค้า ในปี 2565 โดยวางเป้าหมายเป็นร้านสะดวกซื้อที่สามารถเข้าถึงชุมชนที่ลึกที่สุดในระดับหมู่บ้าน โดยมียุทธศาสตร์หลักเป็นการเจาะลึกเข้าไปในระดับหมู่บ้าน ในชุมชนเล็กๆ ที่มีร้านค้าปลีกตั้งอยู่
พร้อมกันนี้ จากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ร้านถูกดี มีมาตรฐาน บริษัทจึงได้เปิดศูนย์บริหารจังหวัด พร้อมรองรับเจ้าของร้านโชห่วย เป็นก้าวสำคัญที่มั่นคงในการขยายธุรกิจ และแสดงถึงความพร้อมในการรองรับเจ้าของร้านโชห่วยทั่วประเทศ เพื่อเข้าเยี่ยมชมศูนย์บริหารที่พร้อมมอบประสบการณ์ทดลองเป็นผู้ซื้อ ผู้ขายจริง ไม่ว่าจะเป็นการชมอุปกรณ์ภายในร้าน สินค้าที่หลากหลาย รูปแบบการตกแต่งร้าน รวมถึงการทดลองใช้ระบบเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) ที่ช่วยบริหารจัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้อย่างครบวงจร พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูล และตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเป็นพาร์ทเนอร์ร้านถูกดี มีมาตรฐาน
อย่างไรก็ตาม บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด เปิดโอกาสในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้กับร้านโชห่วยทั่วประเทศ และคู่ค้า ที่สนใจเข้ามาร่วมมือกับร้านถูกดี มีมาตรฐาน เครือข่ายธุรกิจค้าปลีกของชุมชน เพื่อยกระดับธุรกิจค้าปลีกของไทยให้ทันสมัย แข่งขันได้ และสนับสนุนให้ชุมชนในสังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นต่อไป