SNNP เคาะราคาไอพีโอ 9.20 บ. ลุยเทรด SET มุ่งขึ้นผู้นำตลาดเครื่องดื่ม-ขนมขบเคี้ยวอาเซียน
SNNP เคาะราคาไอพีโอ 9.20 บ. เล็งเทรด SET ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนก.ค.นี้ มุ่งขึ้นผู้นำตลาดเครื่องดื่ม-ขนมขบเคี้ยวอาเซียน
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า หลังจาก บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 8.70 – 9.20 บาทต่อหุ้น
โดยเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อระหว่างวันที่ 7-9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนรายย่อย เช่นเดียวกับนักลงทุนสถาบันที่แสดงความสนใจจองซื้อที่ราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ที่ราคา 9.20 บาท มากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรกว่า 17 เท่า สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและเชื่อมั่นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าจะนำหลักทรัพย์ SNNP เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม 2564
ส่วน นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย กล่าวว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและฐานะทางการเงิน เพื่อรองรับแผนขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ มุ่งเน้นความเป็นเลิศทั้งในด้านคุณภาพและการบริการ และสร้างแบรนด์ให้เป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเข้าถึงผู้บริโภคในทุกช่วงเวลาและโอกาสในการบริโภค ก้าวสู่ผู้นำเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวแห่งอาเซียน โดยตั้งเป้ารายได้แตะ 8,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 จากแผนการลงทุนดังนี้
1.แผนลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในประเทศ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพที่ดีได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตรวมถึงลดต้นทุน สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น
2.แผนการลงทุนในบริษัทย่อยของบริษัทฯ เพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม ที่มุ่งเพิ่มกำลังการผลิตและขยายการจัดจำหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทฯ ได้ลงทุน ผ่าน S.T. Food Marketing Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มเยลลี่สำเร็จรูปในประเทศเวียดนาม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในไตรมาส 3 ปี 2564
โดยโรงงานจะแบ่งการก่อสร้างเป็นทั้งหมด 3 ช่วงเวลา และคาดว่าโรงงานในส่วนที่ 1 จะแล้วเสร็จในปี 2565 และโรงงานทั้งหมดตามแผนการลงทุนในเบื้องต้นจะแล้วเสร็จช่วงสิ้นปี 2566 ซึ่งจะทำให้ SNNP มีฐานการผลิตจำนวนทั้งสิ้น 6 แห่ง ทั้งในประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม ครอบคลุมตลาดที่มีประชากรกว่า 250 ล้านคน และเป็นฐานการส่งออกสินค้าไปตลาดอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ส่งออกไปยัง 5 ทวีป รวมกว่า 35 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศจีนและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปโดยวางเป้าหมายรายได้จากตลาดต่างประเทศเติบโต 3 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า
3.แผนลงทุนพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดย SNNP ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาด้านการวิจัยผลิตภัณฑ์อาหารจากกัญชงและกัญชา และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ รวมถึงโครงการวิจัยเรื่องการคัดเลือกพันธุ์กัญชงสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่
รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนต่อยอดแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาด อาทิ เจเล่ เบนโตะ เมจิกฟาร์ม โลตัสขาไก่ และเครื่องดื่มอควาวิตซ์ ฯลฯ โดยมุ่งพัฒนารสชาติ ขนาดและราคา ให้เหมาะกับกำลังซื้อในแต่ละประเทศ (Localization) และด้วยศักยภาพทางธุรกิจที่บริษัทฯ วางไว้อย่างแข็งแกร่ง จะผลักดันให้ผลดำเนินงาน SNNP มีการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต