ปตท.กับระบบนิเวศ EV

บริบทการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์แบบดั้งเดิม (เครื่องยนต์สันดาป) เพื่อก้าวเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้า (ElectricVehicle : EV) นั่นจึงทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องรถยนต์สันดาป ต้องมีการปรับตัวหรือสร้างโซลูชั่นทางธุรกิจใหม่ เพื่อแสวงหาโอกาสกับการเข้ามาของ “ธุรกิจ EV” ดังกล่าว


บริบทการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์แบบดั้งเดิม (เครื่องยนต์สันดาป) เพื่อก้าวเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้า (ElectricVehicle : EV) นั่นจึงทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเกี่ยวเนื่องรถยนต์สันดาป ต้องมีการปรับตัวหรือสร้างโซลูชั่นทางธุรกิจใหม่ เพื่อแสวงหาโอกาสกับการเข้ามาของ “ธุรกิจ EV” ดังกล่าว

หนึ่งในนั้นคือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่ผูกพันเกี่ยวกับธุรกิจยานยนต์สันดาปมายาวนานถือโอกาสเข้าสู่ EV Value Chain ภายใต้กลยุทธ์ New S-Curve เพื่อแสวงหามูลค่าเพิ่มและสร้างการเติบโตจากธุรกิจ EV เหมือนดั่งเช่นที่เคยประสบความสำเร็จจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจยานยนต์แบบดั้งเดิมมาแล้ว

นั่นจึงทำให้ปตท.มีการสร้างระบบนิเวศธุรกิจ EV ตั้งแต่ “ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ” ตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา…!!

ช่วงปลายเดือน พ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ปตท.มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย กับบริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด (Foxconn Group) ผู้นำการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก ศึกษาโอกาสพัฒนาฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่

โดย Foxconn เป็นผู้นำการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก ส่วน ปตท.มีความแข็งแกร่งในธุรกิจพลังงาน ทั้งเครือข่ายพันธมิตร กลุ่มบริษัทในเครือฯ และผู้ร่วมทุนปัจจุบัน เพื่อการพัฒนาแพลตฟอร์มการผลิตและเสริมศักยภาพระบบนิเวศ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

ที่ผ่านมา ปตท.เริ่มรุกเข้าสู่ห่วงโซ่ยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร (EV Value Chain) ด้วยการจับมือพันธมิตรในธุรกิจการพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charging Platform) รวมถึงการลงทุนธุรกิจแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเตรียมพร้อมสู่ฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรภายใน 2-3 ปี

โดยช่วงกลางเดือน ก.ย. 2563 มีการจัดตั้งบริษัท ออน-ไอออน โซลูชั่นส์ จำกัด เพื่อดำเนินการและพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จรถไฟฟ้า หรือเครื่องอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า นอกสถานีบริการน้ำมันกลุ่ม ปตท.

ส่วนต้นน้ำธุรกิจ EV ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อเข้าลงทุนในบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. (AXXIVA) ประเทศจีน ผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่

โดย AXXIVA จะลงทุนก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ Semi-solid ระยะที่ 1 ในประเทศจีน กำลังผลิต 1 GWh ต่อปี กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปลายปี 2564 และเริ่มดำเนินการผลิตแบตเตอรี่เชิงพาณิชย์ภายในต้นปี 2565

เป็นที่น่าจับตาว่าการก้าวสู่ธุรกิจ EV ภายใต้ระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร (EV Value Chain) จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเครือ ปตท.ได้มากน้อยเพียงใด..!!

จากต้นน้ำ..สู่ปลายน้ำธุรกิจ EV

– ธุรกิจแบตเตอรี่ : บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ร่วมทุนกับกลุ่ม AXX IVA จากประเทศจีน ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ กำลังผลิต 1 Gwh/ปี (กำลังผลิตเริ่มต้น 30 Mwh ต่อปี)

– ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า : ปตท.จับมือกับ Foxconn (ไต้หวัน) ตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย กำลังการผลิต 1 แสนคันต่อปี พร้อมศึกษาการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและรถบัสไฟฟ้า

EV แพลตฟอร์ม : เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ทั้งบริการเช่ารถแบบคาร์แชร์ริ่ง และขับเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น การเรียกรถรับจ้างส่วนบุคคล Ride Halling ระบบบริหารจัดการเรื่องสถานีชาร์จ และสิทธิประโยชน์กับลูกค้าร่วมกับบลูการ์ด

สถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้า : เปิดให้บริการชาร์จในสถานีบริการน้ำมัน OR ครบ 100 แห่งภายในปี 2564 พร้อมกับสถานีบริการน้ำมัน (ผ่านบริษัทย่อย) 100 แห่ง ภายในปี 2564 และสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Swap & Go เพื่อรองรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

Back to top button