BBL เปิดลงทะเบียนพักหนี้ 2 เดือน ช่วย “SME-รายย่อย” โดนผลกระทบโควิด

BBL รับลงทะเบียนขอพักชำระหนี้ 2 เดือน ช่วย “SME-รายย่อย” ในพื้นที่ 10 จ.สีแดงเข้ม ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 จนต้องปิดกิจการ เริ่ม 19 ก.ค.-15 ส.ค.นี้


นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดกรอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่ต้องปิดกิจการจากมาตรการของทางการ ธนาคารจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่ลูกค้า ด้วยการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยสามารถลงทะเบียนเข้าขอรับมาตรการดังกล่าวผ่านหลากหลายช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2564

โดยลูกค้าที่สามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ เป็นได้ทั้งลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการและอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) ซึ่งเบื้องต้นออกประกาศจำนวน 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสงขลา โดยลูกค้าสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สำนักธุรกิจและสาขาธนาคารทั่วประเทศ และบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยง สามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokbank.com และ โมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ”

สำหรับลูกค้าที่ยังสามารถเปิดดำเนินกิจการ แต่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่ลดลงจากมาตรการควบคุมการระบาดของภาครัฐ ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอความช่วยเหลือตามความจำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกค้าอย่างเต็มที่

ในส่วนมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ออกมาก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ ยังคงดำเนินมาตรการที่สามารถรองรับลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม และได้ขยายระยะเวลาไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ธนาคารได้ให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและทันเวลา ทุกครั้งเมื่อมีการออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม ก็จะเข้าไปศึกษาผลกระทบและเตรียมแนวทางหรือมาตรการช่วยเหลือให้คลอบคลุมเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารยังมีมาตรการปกติที่เตรียมพร้อมเข้ามาช่วยดูแลหลังจากผ่านช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้ลูกค้าสามารถก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปได้นายสุวรรณ กล่าว

Back to top button