พาราสาวะถีอรชุน
คนไทยในประเทศว่าไง เห็นคนไทยในสหรัฐอเมริกาแห่ไปให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กันอุ่นหนาฝาคั่งพร้อมตะโกนบอกให้“อยู่นานๆ” ความจริงคงไม่มีใครไปกล้าขัดอำนาจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะร่างรัฐธรรมนูญกี่รอบล้มกันกี่หน อยู่โยงกันไปนานเท่าไหร่ แต่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจจะต้องดีตามมาด้วย วันนี้ปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นเช่นไร รู้แก่ใจกันดีทุกฝ่าย
คนไทยในประเทศว่าไง เห็นคนไทยในสหรัฐอเมริกาแห่ไปให้กำลังใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กันอุ่นหนาฝาคั่งพร้อมตะโกนบอกให้“อยู่นานๆ” ความจริงคงไม่มีใครไปกล้าขัดอำนาจที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดจะร่างรัฐธรรมนูญกี่รอบล้มกันกี่หน อยู่โยงกันไปนานเท่าไหร่ แต่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจจะต้องดีตามมาด้วย วันนี้ปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นเช่นไร รู้แก่ใจกันดีทุกฝ่าย
พี่น้องชาวสวนยางพาราก็ได้แต่ฮึ่มไม่กล้าออกลูกกร่างปิดถนนเรียกร้องเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ทั้งที่ทุกข์นั้นแสนสาหัสมากกว่ากันหลายเท่านัก ไม่รู้เพราะกลัวกฎหมายพิเศษหรือเชื่อน้ำคำของคนนำม็อบชัตดาวน์ประเทศก่อนหน้านี้ ที่แน่ๆ นี่คือตัวอย่างของกลุ่มปัญหาความเดือดร้อนที่รัฐบาลต้องตระหนัก เพราะการปล่อยเวลาให้เนิ่นนานโดยไม่มีหนทางจะช่วยเหลือเยียวยา สุดท้ายจะวกกลับมาทำร้ายตัวเองได้
คงไม่ต้องบอกนโยบายประชานิยมนั้นดีขนาดไหน เพราะล่าสุดบิ๊กตู่ก็พูดปาวๆ ป่าวประกาศให้ชาวโลกรับรู้ถึงความสำเร็จของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การส่งเสริมความเท่าเทียมในบริบทสุขภาพโลกและความมั่นคงของมนุษย์ในช่วงการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015
โดยผู้นำไทยบอกว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับประเด็นสุขภาพและความมั่นคงของมนุษย์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ตามความจำเป็น และไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วยและค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาแพง ด้วยบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน โดยคำนึงถึงเกียรติและศักดิ์ศรีของทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
คำกล่าวดังว่านี้คือหัวใจสำคัญของโครงการดังกล่าวที่ดำเนินการโดยรัฐบาลภายใต้การนำของ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากการพาพรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งและก้าวมาเป็นรัฐบาล ไม่เพียงเท่านั้นบิ๊กตู่ยังยืนยันด้วยว่าตลอด 12 ปีที่ผ่านมาของการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สามารถป้องกันครัวเรือนไม่ให้เกิดความยากจนเนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมากกว่า 1 แสนครัวเรือน
เมื่อเป็นเช่นนั้นก็น่าจะเบาใจได้ว่า โครงการนี้คงไม่ถูกยกเลิกเพราะมองเห็นว่าเป็นประชานิยม ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เนื่องจากเวลานี้ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์มหาศาลจากโครงการหลักประกันสุขภาพ สิ่งที่บิ๊กตู่ไปยืนยันกับที่ประชุมสหประชาชาติในประเด็นนี้คือบทพิสูจน์ความสำเร็จของโครงการ
นั่นก็คือ ไทยร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนพร้อมด้วยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จัดตั้งเครือข่ายความร่วมมืออาเซียนบวกสามด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยไทยจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในภูมิภาคในเรื่องการจัดบริการสาธารณสุขและการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นในโครงการด้านวิชาการไทย-ญี่ปุ่นเพื่อขับเคลื่อนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า สนับสนุนเครือข่ายสุขภาพโลก
ไม่เพียงเท่านั้นไทยยังพร้อมจะร่วมกับทุกประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อให้บรรลุหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป สิ่งที่ทำให้หัวหน้าคสช.สามารถนำไปอวดชาวโลกพร้อมกับโชว์วิสัยทัศน์ที่ยาวไกลเช่นนี้ ถามว่ามรรคผลของประชานิยมหรือไม่
นี่แหละคือความจริงที่ย้ำมาโดยตลอดว่า สังคมคนดีต้องเลิกดัดจริต ตอแหล เพราะคนที่มีพร้อมแล้วทุกอย่างย่อมมองไม่เห็นความสำคัญของโครงการที่คนชนชั้นรากหญ้า คนด้อยโอกาสต้องอาศัยพึ่งพิง สิ่งเหล่านี้เชื่อได้เลยว่าแม้แต่บรรดากองเชียร์ม็อบนกหวีดจำนวนไม่น้อยก็ได้อาศัยใบบุญในการดูแลรักษายามเจ็บไข้ได้ป่วย
เช่นเดียวกันกับการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีพยายามจะบอกว่าต้องได้ตัวประธานกรธ.เป็นผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว หัวใจสำคัญของการร่างกฎหมายสูงสุดของประเทศก็คือ ต้องมีจิตใจฝักใฝ่ประชาธิปไตย ที่สำคัญคือไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยในรูปแบบไทยๆ ที่ฝ่ายอำนาจเผด็จการต้องการ
ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับดอกเตอร์ปื๊ด ดังนั้น การที่คนอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเชลียร์คณะรัฐประหารมาตั้งแต่ต้น ถึงขนาดป่าวประกาศให้ใช้มาตรา 44 เขียนรัฐธรรมนูญ จึงย่อมแสดงให้เห็นธาตุแท้ของจิตใจได้เป็นอย่างดีว่า การทำมาหากินในตำแหน่งนักการเมืองในอดีตนั้น แท้ที่จริงแล้วแค่การแอบอ้างประชาธิปไตยเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น
รวมไปถึงการเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ให้กำลังใจคสช.และเปิดโอกาสให้รัฐบาลคณะรัฐประหารได้ทำงาน จึงมีคำถามว่า คนที่หนีไปบวชมาแล้วได้ซึมซับเอาหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนามามากน้อยขนาดไหน เอาแค่กรณีบอกให้คนอื่นหยุดแล้วตัวเองหยุดหรือยัง พยายามจะสอนให้คนอื่นเปิดใจให้กว้าง แต่ถามว่าคนอย่างเทพเทือกเปิดใจแล้วหรือยัง เปิดเพื่อตนเองหรือคนอื่น
ยิ่งการกล่าวหาเรื่องการเลือกตั้งสกปรก มีการซื้อเสียง ก็ต้องย้อนกลับไปเอาคำพูดของ สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ที่ตอบโต้เทพเทือกเรื่องผลงานว่า สุเทพคงมีปัญหาเรื่องการถือศีลข้อ 4 คือ การพูดปด เพราะกกต.ให้ใบแดงกรณีจัดเลี้ยง-แจกของในการเลือกนายกและสมาชิกอบจ.เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี คงไม่ต้องบอกว่าเป็นพื้นที่ใครและใครที่กระทำความผิด
เหล่านี้คือความเป็นจริงที่ผู้มีอำนาจต้องตระหนัก หากจะปฏิรูปและร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับ ต้องไม่หลงเหลี่ยมวาทกรรมของคนดีและพรรคการเมืองบางพรรค ดีเลวพฤติกรรมใครเป็นอย่างไรเชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้ หากมั่นคงในจุดยืนไม่ทิ้งอุดมการณ์ของประชาชน ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นสากล ทุกอย่างจะเป็นงานง่ายและราบรื่นไม่ว่าผู้มีอำนาจนั้นจะมีที่มาอย่างไรก็ตาม