SNNP ลงสนามเทรดวันนี้ ลุ้นวิ่งเหนือ 14 บ. พื้นฐานแกร่ง มุ่งขึ้นผู้นำตลาดอาเซียน
“ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง” หรือ SNNP ลงสนามเทรด SET วันแรก ลุ้นราคาวิ่งเหนือ 14 บ. ชูพื้นฐานแกร่ง มุ่งขึ้นผู้นำตลาดอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.ค.) หุ้นสามัญบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เป็นวันแรก
สำหรับ SNNP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว มีตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ได้แก่ 1) กลุ่มเครื่องดื่ม ประกอบด้วย เจเล่ ไดยาโมโตะ คูลลี่คูล และเมจิกฟาร์ม 2) ขนมขบเคี้ยวประกอบด้วย เบนโตะ ทาโกะ โลตัส ช๊อคกี้ บริษัทจัดหน่ายสินค้าผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade โดยมียอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา และเวียดนาม
นอกจากนี้ SNNP ยังมีเงินลงทุนในกิจการที่ทำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงในการจัดจำหน่ายสินค้าของตนเองลดการพึ่งพิงผู้จัดจำหน่ายภายนอก และส่งเสริมให้บริษัทเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
ทั้งนี้ SNNP มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO จำนวน 480 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 720 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 240 ล้านหุ้น ซึ่งเสนอขายแก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่าย ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ และกรรมการผู้บริหาร ของบริษัทและบริษัทย่อย รวม 149 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 7-9 กรกฎาคม 2564 ผู้ลงทุนสถาบัน 91 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 9.2 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,208 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,832 ล้านบาท
โดยราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 83.2 เท่า โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้าน นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SNNP เปิดเผยว่า SNNP มีวิสัยทัศน์มุ่งเน้นความเป็นเลิศทั้งในด้านคุณภาพและการบริการ รวมถึงการสร้างแบรนด์ให้เป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเข้าถึงผู้บริโภคในทุกช่วงเวลาและโอกาสในการบริโภค บริษัทมีทีมวิจัยและพัฒนาที่มีความมุ่งมั่นสร้างสรรค์สินค้าใหม่ที่มีความหลากหลาย ตลอดจนมีระบบการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม
โดย SNNP มีแผนงานที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการสร้างโรงงานผลิตเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว โดยเป็นการลงทุนผ่านบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนาม เพื่อทำให้ฐานการค้าต่างประเทศมีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นผู้นำเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวแห่งอาเซียน นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะใช้ในชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
อีกทั้ง SNNP มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 60% โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่าง ๆ ทั้งนี้ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน กระแสดเงินสด สภาพคล่องทางการเงิน แผนการลงทุน ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นใดในอนาคต และปัจจัยอื่นๆ
ทั้งนี้ มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ ครอบครัวไกรพิสิทธิ์กุลและชัยสถาพร ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้งบริษัท ถือหุ้นรวม 75%
ขณะที่ก่อนหน้านี้ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า รายได้จากการขายมีแนวโน้มเติบโตดีโดยเฉพาะจากตลาด CLMV คาดกำไรปกติปี 2564 จะฟื้นตัวเป็น 282 ล้านบาทและกำไรปกติปี 2565 จะเพิ่มขึ้น 59% เป็น 449 ล้านบาท หนุนโดยอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น และค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารต่อยอดขายที่คาดว่าจะลดลงจาก 22% เป็น 16% รวมถึงภาระดอกเบี้ยที่มีโอกาสลดลงหลัง IPO กว่า 80 ล้านบาท กำหนดราคาเหมาะสมช่วง 14.00-15.00 ต่อหุ้น