สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ค. 2564

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.ค. 2564


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึง AT&T บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยเฉพาะตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,823.35 จุด เพิ่มขึ้น 25.35 จุด หรือ +0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,367.48 จุด เพิ่มขึ้น 8.79 จุด หรือ +0.20% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,684.60 จุด เพิ่มขึ้น 52.64 จุด หรือ +0.36%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปเป็นเวลานานขึ้น ขณะที่การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 456.53 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ +0.56%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,481.59 จุด เพิ่มขึ้น 17.11 จุด หรือ  +0.26% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,514.54 จุด เพิ่มขึ้น 92.04 จุด หรือ +0.60% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,968.30 จุด ลดลง 29.98 จุด หรือ -0.43%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นยูนิลีเวอร์ หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรทั้งปีนี้ และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,968.30 จุด ลดลง 29.98 จุด หรือ -0.43%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวเนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิงในรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.30% ปิดที่ 71.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2.20% ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีก 2 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,805.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 12.60 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 25.381 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 15.30 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,090.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 49.70 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 2,704.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีก 2 ปี

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ 92.8224 เมื่อคืนนี้

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1771 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1799 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3774 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3715 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7387 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7357 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.14 เยน จากระดับ 110.27 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2556 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2558 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.9190 ฟรังก์ จากระดับ 0.9172 ฟรังก์

 

Back to top button