COM7 ขายมอ’ไซค์.!
แค่เห็นมติบอร์ดบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ที่อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท ล้อทอง จำกัด ก็ต๊กกะใจ..!! จากธุรกิจขายสินค้าไอที แล้วมีล้อทองขึ้นมา...เอ๊ะ..!! อะไร..? ยังไง..?
แค่เห็นมติบอร์ดบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ที่อนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่ชื่อว่า บริษัท ล้อทอง จำกัด ก็ต๊กกะใจ..!! จากธุรกิจขายสินค้าไอที แล้วมีล้อทองขึ้นมา…เอ๊ะ..!! อะไร..? ยังไง..?
อ้อ…พอไปดูรายละเอียดที่ COM7 แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นการรุกไปสู่ธุรกิจขายรถจักรยานยนต์ และสินค้าอุตสาหกรรมและอุปโภคอื่น ๆ โดยส่งบริษัทลูกอย่าง บริษัท โนวัส จำกัด ไปถือหุ้นในล้อทองสัดส่วน 74.99% ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายย่อยอีกสองราย ที่จะถือหุ้นในสัดส่วน 45% และ 10% ตามลำดับ
แต่น่าแปลกตรงที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามของผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งสองรายว่าเป็นใคร ระบุแค่ว่า เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และมีสัมพันธ์อันดีกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อ
แหม๊…ชักอยากรู้แล้วอะดิ…เค้าคือใครน้อ..?
พักเรื่องผู้ถือหุ้นรายย่อยสองคนเอาไว้ก่อน…มาดูความน่าสนใจในการข้ามสายพันธุ์ของ COM7 กันบ้าง
จะว่าไป COM7 มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะ BaNANA ร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และ Studio7 ร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple รวมทั้งแบรนด์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น BKK smartphone & tablet, iCare และ Brand shops เช่น Samaung, Oppo, Vivo & Huawei
โดยมีสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ไปตามร้านค้าปลีกในห้างสรรพสินค้า จับมือกับพันธมิตรอย่างทรู ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามโตแบบอินออร์แกนิค หาช่องทางในการเติบโต ก็ถือว่าทำได้ดี ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องทุกปี…
แต่ด้วยตลาดสินค้าไอทีเป็นเรดโอเชียน มีการแข่งขันกันสูง คู่แข่งเยอะ โดยเฉพาะบรรดาร้านตู้ที่เข้ามาแย่งมาร์เก็ตแชร์ ทำให้ต้องดั๊มพ์ราคาแข่งกัน ตามมาด้วยมาร์จิ้นที่บางเฉียบ หากไม่ทำอะไรเลย ก็จะโตแบบถดถอย…สิ่งที่ COM7 ทำได้ก็ต้องออกไปแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ จากเดิมที่โตแบบอินออร์แกนิค ก็ต้องหันไปโตแบบออร์แกนิค แตกไลน์ธุรกิจไปเลย…
โดยตัวเลือกที่ COM7 มองว่าน่าจะตอบโจทย์ได้ดีสุดในช่วงนี้ คือธุรกิจขายรถจักรยานยนต์..!!
โอเค…แม้ตลาดรถจักรยานยนต์ใหม่อาจไม่เติบโตหวือหวาเหมือนในอดีต โดยคาดว่าปี 2564 นี้จะขยายตัวเล็กน้อยอยู่ในระดับ 1.53-1.54 ล้านคน หรือเติบโตราว 1% จากปี 2563 ที่มียอดรวมอยู่ที่ 1.52 ล้านคัน
แต่ COM7 คงมั่นอกมั่นใจว่า ด้วยความเชี่ยวชาญด้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และสายสัมพันธ์อันดีกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อของผู้ถือหุ้นรายย่อยสองราย (ที่ยังไม่ประสงค์ออกนาม) ก็น่าจะช่วยให้บริษัท ล้อทอง เติบโตได้ไม่ยาก
โดย COM7 สามารถใช้ช่องทางที่มีอยู่ทำธุรกรรมผ่านสาขาต่าง ๆ ได้ และเนื่องจาก COM7 มีบริษัทลูกเป็นบริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP (ถือหุ้นสัดส่วน 33.93%) ซึ่งให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว…ก็เอา NCAP มาปล่อยกู้ให้กับกลุ่มลูกค้าของล้อทองได้ด้วย
ถ้ามีปัญหาของหนี้เสีย…ยังจำได้มั้ย จำได้หรือเปล่า..? ก่อนหน้านี้ “สุระ คณิตทวีกุล” ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร COM7 มีการทำบิ๊กล็อตหุ้นบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO จำนวน 33.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.73% ซึ่งสุระออกมาให้ข้อมูลการถือหุ้น CHAYO ว่า คาดหมายในอนาคตจะต่อยอดธุรกิจในเครือ
ก็เป็นไปได้ว่า ในเรื่องการติดตามทวงหนี้ ก็สามารถผูกปิ่นโตกับ CHAYO ได้…
ในมุมของ COM7 อันดับแรกจะได้ยอดขายการขายรถจักรยานยนต์เข้ามา ส่วน NCAP ก็ได้ส่วนต่างดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งหาก NCAP ทำได้ดี สุดท้ายผลประโยชน์ก็จะกลับคืนสู่ COM7 ในรูปของเงินปันผลตามสัดส่วนการถือหุ้น ด้าน CHAYO ก็ได้ทวงหนี้ มีกำไรก็จะกลับคืนสู่ “สุระ” ในฐานะผู้ถือหุ้นนั่นเอง…
แหม๊…ถ้าเกมไปตามนี้จริง ล้อทองคงกลายเป็นล้อทอง (คำ) สมชื่อแน่ ๆ ว่าป๊ะล่ะ…
…อิ อิ อิ…