ADVANC ลบ 2% เครดิตสวิสหั่นเป้า “ถือ” เหลือ 187 บ. ชี้ลงทุน 5G กดดันกำไรระยะสั้น

ADVANC ลบ 2% เครดิตสวิสดาวน์เกรต "ถือ" เป้าเหลือ 187 บ. ชี้ลงทุน 5G กดดันกำไรระยะสั้น และมีการเติบโต/อัพไซด์ที่จำกัด หลังต้นทุนสูง รวมถึงการแข่งขันที่ยังสูงจึงเป็นเรื่องยากที่จะสามารถ Outperform ตลาดได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (3 ส.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ณ เวลา 12.02 น. อยู่ที่ระดับ 176.00 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.49% โดยทำจุดสูงสุดที่ 180.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 174.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.83 พันล้านบาท

ADVANC

เครดิตสวิส มีมุมมองต่อกลุ่มสื่อสารว่าอยู่ในตลาดหมี และดาวน์เกรด ADVANC ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการสื่อสารประเทศไทยจาก Outperform เป็น Neutral และลดราคาเป้าหมายจาก 243 บาท เป็น 187 บาท

โดยเครดิตสวิส มองว่าในช่วงที่ธุรกิจกำลังเข้าสู่วัฏจักรการลงทุนใน 5G ทำให้ ADVANC จะได้รับแรงกดดันในเรื่องของต้นทุน และจะมีอัตราการเติบโต/อัพไซด์ที่จำกัดในระยะสั้นถึงกลาง รวมถึงการแข่งขันที่ยังสูงอยู่ จึงจะเป็นเรื่องยากที่ ADVANC จะสามารถ Outperform ตลาดได้ด้วยอัตราการเติบโตของกำไร และ EBITDA ที่น้อย ในขณะที่นักลงทุนเพ่งเล็งไปยังเรื่องของ Domestic / reopening play จากเรื่องของโควิด-19 มากกว่า

อีกทั้งเครดิตสวิส กล่าวว่า ADVANC จะยังคงเป็นตัวเลือกของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มที่มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม AIS ยังคงมีจุดได้เปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆในเรื่อง 5G จากฐานลูกค้าที่สูงเป็นอันดับหนึ่ง มี branding ที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวาง ดังนั้น เครดิตสวิส จึงมองว่า ADVANC จะยังคงรักษารายได้จากการบริการ และมาร์เก็ตแชร์ให้อยู่ในระดับเดิม และเน้นการปรับราคาเพื่อแข่งกับคู่แข่งอื่นๆแทน

ทั้งนี้เครดิตสวิส ไม่ได้ด้อยค่าเรื่องโอกาสการสร้างมูลค่าจากธุรกิจ 5G ของ ADVANC แต่การสร้างรายได้จะช้าลง นอกจากนั้นแล้ว บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF อาจจะขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใน ADVANC ซึ่งอาจทำให้มีการนำโครงข่ายการสื่อสารของ ADVANC ไปใช้ต่อยอดธุรกิจของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เครดิตสวิส ยังมองว่า Sintel จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามอิทธิพลจาก GULF ที่จะเข้ามากำหนดทิศทางกลยุทธ์ดำเนินงานได้

ขณะเดียวกันเครดิตสวิส คาดว่า ADVANC จะมีอัพไซด์ที่ค่อนข้างจำกัด เมื่อเทียบ ADVANC กับคู่แข่งในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะพบว่า EV/EBITDA นั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง คาด EV/EBITDA ปี 2565 อยู่ที่ 7.40 เท่า และ PE อยู่ที่ 18.10 เท่า ส่วน EBITDA และกำไรในปี 2564 – 2566 จะโตแค่หลักเดียว ที่สำคัญอาจมีการจ่ายปันผลเพิ่มขึ้น แต่ก็จะขึ้นไปเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลังเท่านั้น

อย่างไรก็ดีเครดิตสวิส คาดว่ารายได้ของ ADVANC ปี 2564 จะอยู่ที่ 1.77 แสนล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 2.78 หมื่นล้านบาท และในปี 2565 คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 1.87 แสนล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 2.94 หมื่นล้านบาท

Back to top button