ADD แรลลี่ยาว! บวกอีก 6% รับแผนเจรจาโอเปอเรเตอร์ 2-3 โปรเจกต์-ลั่นรายได้ปีนี้โต 50%
ADD แรลลี่ยาว! บวกอีก 6% รับแผนเจรจาโอเปอเรเตอร์ 2-3 โปรเจกต์ จ่อปิด 1 ดีลช่วงครึ่งปีหลัง-ลั่นรายได้ปีนี้โต 50%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(5ส.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD ณ เวลา 12.06 น. อยู่ที่ระดับ 33.25 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 6.40% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 93.75 ล้านบาท ราคาหุ้นสูงสุดคั้งแต่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 20 พ.ค.63
ก่อนหน้านายสมโภช ทนุตันติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ADD เปิดเผยว่า ภายหลังจากการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) กับนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยอมรับได้รับการตอบรับที่ดี โดยนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจในรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ของ ADD เป็นอย่างมาก
โดยทำให้มีการทำรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (Big-Lot Board) จำนวน 8 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งรายการดังกล่าวเกิดจากการขายหุ้นส่วนตัวของนายสมโภช ทนุตันติวงศ์ และนายเจนวิทย์ จิวะกุลชัยนันท์ รองประธานกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท โดยเป็นการทำรายการขายให้กับกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เพื่อเพิ่มฐานผู้ลงทุนประเภทสถาบัน รวมถึงเป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหลักทรัพย์
ทั้งนี้ สาเหตุที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุน เนื่องจากเห็นว่า ADD มีศักยภาพในการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและดูแลรักษาระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content Support) และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Digital Solution) ให้กับลูกค้าโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม รวมถึงอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องที่จำเป็นต้องพัฒนารูปแบบการทำงานให้ทันกับโลกยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ กลุ่มนักลงทุนสถาบันยังเล็งเห็นว่า ADD มีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาจากภาพรวมของตลาด Digital Content ในประเทศ ณ ปัจจุบัน มีมูลค่ามากกว่า 60,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันทิศทางการเติบโตของโอเปอเรเตอร์ได้มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจ Non-Voice และ Digital Content มากขึ้น หลังจากที่มีการให้บริการบนคลื่นความถี่ต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบ 4G และ 5G หนุนให้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Digital Content ใหม่ ๆ ออกมารองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการใช้บริการ Digital Content ในรูปแบบการสมัครสมาชิก
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับโอเปอเรเตอร์ เพื่อที่จะให้บริการด้าน Digital Content Support และให้บริการพัฒนาระบบ Digital Solution เพิ่มเติมอีก 2-3 โปรเจกต์ โดยเบื้องต้นคาดว่าดีลดังกล่าวจะเห็นความชัดเจนได้ภายในช่วงครึ่งปีหลังอย่างน้อย 1 โปรเจกต์ ส่งผลให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในช่วงครึ่งปีหลัง และจะรับรู้เต็มปีในปี 2565 ส่วนโปรเจกต์อื่น ๆ จะทยอยทราบความชัดเจนในลำดับถัดไป สำหรับประมาณการอัตราการเติบโตของบริษัทในปี 2564 คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 345.53 ล้านบาท