SET ปิดเช้าร่วง 9 จุด เซ่นพิษโควิดระบาดหนัก โบรกฯแนะลงทุนหุ้นงบโต
SET ปิดเช้าร่วง 9 จุด หลังเทคนิคเคิลรีบาวด์มาหลายวันแต่ยังติดด่าน 1,550 ด้วยโควิดยังระบาดหนักทำให้หุ้นที่ได้รับผลกระทบอ่อนตัวลง ทั้งนี้โบรกฯแนะลงทุนหุ้นรายตัวอิงงบดี กลุ่มส่งออก, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มโรงพยาบาล คาดบ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งซึมช่วงใช้เวลาสร้างฐาน ให้แนวรับ 1,540 - 1,530 ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด
10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้
ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,536.71 จุด ลดลง 9.15 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,902 ล้านบาท
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงหลังเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์มาหลายวันและยังติดด่าน 1,550 จุด ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไม่ดีขึ้น โดยวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 หมื่นรายเป็นวันที่ 2 ทำให้หุ้นที่ได้รับผลกระทบกลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้ง ทั้งกลุ่มธนาคาร, โรงแรม, ขนส่ง เป็นต้น
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก – ลบคละกัน เป็นการแกว่งอย่างไร้ทิศทาง หลังนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงมองเป็นปี 2566 ทำให้ดาวโจนส์ปรับตัวลงไปบ้าง แต่ก็ไม่แปลกเพราะมองเป็นการพักตัวบ้างหลังจากขึ้นไปมากแล้ว
ส่วนตลาดบ้านเรายังขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด แม้การจัดหาวัคซีนเพิ่มได้จะทำให้ตอบรับในทางบวก ดังนั้นช่วงนี้แนะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวอิงงบฯดี และมีแนวโน้มที่จะดีต่อเนื่อง ส่วนหุ้นที่เจอผลกระทบจากโควิด แม้งบฯจะออกมาดีแต่ยังน่าเป็นห่วงครึ่งปีหลัง 2564 จะแย่ลงอย่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แม้ไตรมาส 2/2564 งบดีแต่การล็อกดาวน์อาจทำให้ไตรมาส 3/2564 แผ่วลง
ทั้งนี้พร้อมมองหุ้นกลุ่มส่งออกน่าสนใจลงทุน ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ปรับตัวขึ้นได้ดีในวันนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลย่อตัวลงบ้างมองเป็นโอกาสในการซื้อสะสม เพราะผู้ติดเชื้อโควิดยังสูงทำให้ความต้องการตรวจหาเชื้อ และรักษายังมีอย่างต่อเนื่อง แนะนำ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวลักษณะซึมตัว ในระหว่างใช้เวลาสร้างฐานสักพัก โดยมีแนวรับ 1,540 – 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด พร้อมแนะติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รายวัน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
7UP มูลค่าการซื้อขาย 2,192.86 ล้านบาท ปิดที่ 1.25 บาท ลดลง 0.53 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,428.60 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,087.36 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,004.97 ล้านบาท ปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 943.91 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.25 บาท