หุ้นยุโรปปิดลบ ตลาดวิตกภาคการผลิตสหรัฐชะลอตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากมีรายงานระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิด (2 ต.ค.) ที่ 346.23 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,426.54 จุด ลดลง 28.75 จุด หรือ -0.65%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,509.25 จุด ร่วงลง 151.19 จุด หรือ -1.57% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,072.47 จุด เพิ่มขึ้น 10.86 จุด หรือ +0.18%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตสหรัฐ โดยมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนก.ย. จากระดับ 53.0 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน โดยภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, อุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาดโลก, ภาวะตื่นตระหนกในตลาดการเงิน รวมทั้งการลดการลงทุนในภาคธุรกิจ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของมาร์กิตที่ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนก.ย.ขยับลงมาอยู่ที่ 52.0 จาก 52.3 ในเดือนส.ค. แต่ไม่เปลี่ยนแปลงจากข้อมูลเบื้องต้น
ทั้งนี้ ภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัวไม่มากนักในช่วงท้ายไตรมาส 3 ขณะที่การผลิตและธุรกิจใหม่ๆต่างขยายตัวเล็กน้อย ด้านหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิต กล่าวว่า แม้ธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงอย่างมาก แต่ภาคการผลิตของยูโรโซนก็ยังไม่มีแนวโน้มขยายตัวมากนัก และมีความเสี่ยงที่จะชะงักงันอีกครั้ง
หุ้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมร่วงลง โดยหุ้นดอยช์ เทเลคอม ดิ่งลง 5.2% หุ้น Scout24 Holding ร่วงลง 3.5% และหุ้นอัลไทซ์ เอ็นวี ร่วงลง 9.3% อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 9.6% และหุ้นเรพซอล ปรับขึ้น 3.7% ขณะที่หุ้นกลุมเหมืองแร่ขยับลงเล็กน้อย รวมถึงหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นแรนโกลด์ รีซอส