BPP หงสาพารวย.!?
ทำได้ดีทีเดียว..!! สำหรับบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ที่เปิดงบไตรมาส 2/2564 ออกมาโตกระจาย 66% มีกำไรสุทธิ 1,126 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 680 ล้านบาท
ทำได้ดีทีเดียว..!! สำหรับบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ที่เปิดงบไตรมาส 2/2564 ออกมาโตกระจาย 66% มีกำไรสุทธิ 1,126 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 680 ล้านบาท
แหม๊…สมกับเป็นลูกเทพของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จริงๆ เชียว…
แต่พอไปไล่ดูรายละเอียด กำไรที่เห็นนั้น ไปกระจุกอยู่ที่ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้น 369 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 46% อยู่ที่ 1,175 ล้านบาท จากไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 806 ล้านบาท
โดยเฉพาะส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาและเหมืองภูไฟที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 705 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 173% เทียบกับช่วงไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 407 ล้านบาทเท่านั้น
ต้องบอกว่า โรงไฟฟ้าหงสาฯ ถือเป็นโครงการเอกของกลุ่มบ้านปูเลยนะ ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัท หงสา เพาเวอร์ จำกัด มี 3 ปาร์ตี้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ถือหุ้น 40% BPP ถือหุ้น 40% และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว ถือหุ้น 20%
แต่น่าเสียดาย กว่าจะได้มาสู่อ้อมอก ผ่านการฟ้องร้องจากกลุ่มงานทวีมานานหลายปี สุดท้ายต้องจ่ายเงินก้อนโตกว่า 2,000 ล้านบาทให้กับกลุ่มงานทวี…เป็นการปิดฉากคดีหงสาที่ยืดเยื้อมานานกว่า 10 ปีเสียที…
เมื่อปลดแอกเรื่องคดีความไปแล้ว ดูเหมือนว่าวันนี้โรงไฟฟ้าหงสาฯ สามารถหนุนการเติบโตให้กับกลุ่มบ้านปูได้สมดังใจหมาย..!! เห็นได้ชัดจากงบไตรมาส 2 ปีนี้
เลยเป็นที่มาของหงสาฯ พารวย..!?
ขณะที่อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้งบไตรมาส 2/2564 ของ BPP เติบโต มาจากการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ที่ลงทุนผ่านบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ลดลง 70 ล้านบาท หรือลดลง 78% เหลือ 20 ล้านบาท
รวมทั้งมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้านาโกโซ ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 47 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ไม่มี
นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น 262% อยู่ที่ 290 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้ดอกเบี้ย 97 ล้านบาท รายได้ค่าบริหารจัดการ 49 ล้านบาท รายได้ค่าเชื่อมต่อท่อไอน้ำที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหม่ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในจีน 12 ล้านบาท
รวมทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 93 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการแปลงค่าเงินให้กู้ยืมที่เป็นสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ณ วันสิ้นงวด และรายได้อื่น ๆ อีก 39 ล้านบาท
ส่งผลให้งบไตรมาสนี้ BPP โชว์ผลงานได้เด็ดสะระตี่…หนุนให้งวดครึ่งปีแรกกำไรสุทธิแตะ 2,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,655 ล้านบาท
วานนี้จึงเห็นราคาหุ้น BPP วิ่งรับกำไรสวย…โดยปรับเพิ่มขึ้น 6.29% ปิดตลาดที่ 18.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 310 ล้านบาท
งานนี้คนที่ปลื้มปริ่มสุด ๆ หนีไม่พ้นคนเป็นแม่อย่าง BANPU ที่มีลูกดีเป็นศรีแก่ตัว…
แต่ถ้าถามว่า แม่ลูกคู่นี้ใครเด่นใครดังกว่ากัน…อันนี้คงตอบยาก..!!
เอาเป็นว่า ใครจะใคร่ซื้อตัวไหนก็ซื้อ…ใครใคร่ขายตัวไหนก็ขาย
จะเก็งกำไรระยะสั้น…หรือลงทุนระยะยาว ก็เอาที่สบายใจละกัน…
…อิ อิ อิ…