เปิดมุมมอง 4 โบรกฯ GULF ถือหุ้นใหญ่ INTUCH จับตาดีล Synergy ครั้งใหญ่!

เปิดมุมมอง 4 โบรกฯ ประสานเสียงมอง “บวก” กรณี GULF เข้าถือหุ้นใหญ่ INTUCH หนุนฐานทุนแกร่งขึ้น จับตา Synergy ครั้งใหญ่!


สืบเนื่องจากกรณีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer) หุ้นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2564 โดยมีหุ้นที่มีผู้แสดงเจตนาขายหุ้นสามัญ INTUCH จำนวน 747,874,638 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน  23.32% ซึ่ง GULF รับซื้อไว้ทั้งหมด ส่งผลให้ GULF ถือหุ้น INTUCH รวมทั้งสิ้น 1,354,752,952 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 42.25% ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ INTUCH ทันที

ล่าสุด วานนี้ (10 ส.ค.2564) GULF ได้จัดการประชุมเสมือนจริงร่วมกับนักวิเคราะห์ เพื่อชี้แจงถึงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปหลังจากทำเทนเดอร์ฯ หุ้น INTUCH เสร็จ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ GULF ทำเทนเดอร์ฯ หุ้น INTUCH ในครั้งนี้

โดยบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการที่ GULF ถือหุ้น INTUCH รวม 42.25% ซึ่ง GULF มองว่าเป็นระดับที่เหมาะสม และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 37-45% แต่ก็เป็นไปได้ที่จะซื้อหุ้นเพิ่มอีก หากราคาหุ้นต่ำกว่าราคา 65 บาท โดย GULF มีแผนจะส่งตัวแทน 4 ท่านไปเป็นกรรมการ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะถือว่ามีอำนาจควบคุมใน INTUCH ทำให้การลงทุนใน INTUCH จะถือว่าเป็นบริษัทย่อย (จากเดิมที่มองเป็นเพียงบริษัทร่วม) ข้อดีที่สำคัญที่สุดคือทำให้ฐานทุนตามงบการเงินรวมใหญ่ขึ้นมาก ส่งผลให้มีความสามารถในการก่อหนี้เพิ่มถึง 1.2 แสนลบ. นั่นหมายถึงโอกาสเห็นการลงทุนใหม่จาก GULF เพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้

นอกจากนั้น GULF เปิดเผยว่าในไตรมาส 3/2564 จะรับรู้รายได้เป็นเงินปันผลจาก INTUCH ราว 1.6 พันล้านบาท โดยคาดจะเห็นความชัดเจนเรื่องการเปลี่ยนวิธีบันทึกบัญชีเป็นริษัทย่อย (Equity Income) ในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ทั้งนี้ ภายหลัง GULF มีส่วนร่วมใน INTUCH แล้ว GULF จะมุ่งเน้นการทำ Optimized Assets จากทุกบริษัทในกลุ่ม โดยเฉพาะการจ่ายเงินปันผลให้สูงขึ้นเพื่อสร้างกระแสเงินสดกลับคืนให้ GULF ซึ่งจะมาจากทั้งการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรผ่านการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เช่น Smart Grid, Data Center, Cloud Computing เป็นต้น และเพิ่ม Payout ratioของแต่ละบริษัทให้สูงขึ้น

ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” GULF โดยมองว่าการลงทุนใน INTUCH ในครั้งนี้เป็นบวกมากกว่าที่คาด จากการใช้เงินลงทุนที่ไม่มากจนเกินไป แต่ได้ฐานทุนที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการก่อหนี้เพื่อไปลงทุนในธุรกิจ Renewable ทำให้คาดจะเห็นการทำ M&A ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง แม้ Valuations ของ GULF จะแพงและมี Upside จำกัด แต่มองว่ายัง “ซื้อเก็งกำไร” ได้ ขณะเดียวกันมีมุมมองเป็นบวกต่อ ADVANC และ INTUCH จากโอกาสการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นภายหลังจาก GULF เข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารแล้ว

สำหรับในภายรวมของ GULF จะมุ่งเน้นธุรกิจใน 3 ด้านหลัก คือ Energy Infrastructure, Logistics Infrastructure, และ Digital Infrastructure ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดี ทั้งนี้สัดส่วนการใช้เงินในอนาคตจะมุ่งไปที่ธุรกิจ Renewable เป็นหลัก ขณะที่อีก 2 ธุรกิจจะมุ่งเน้นต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุนที่ได้ลงทุนไปแล้วเป็นหลัก

เช่นเดียวกับ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ที่มีมุมมองบวกต่อ GULF หลังถือหุ้น INTUCH สัดส่วน 42% โดย Bloomberg Consensus อยู่ที่ระดับ 40 ซึ่งการทำเทนเดอร์ฯ INTUCH ได้ 42% พร้อมร่วมกับ SINGTEL ในการบริหาร และมีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ของ ADVANC และ THCOM เพื่อให้มีการจ่ายปันผลอย่างประสิทธิภาพสูงสุด โดยในอนาคตมีแผนลงทุน Data Center ตามโรงไฟฟ้า SPP ที่อยู่ในพอร์ตฟอริโอเนื่องจากเป็นสถานะที่เหมาะสมต่อการตั้ง Data Center

ส่วนการซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน INTUCH อาจเพิ่มถึงระดับ 50% อย่างไรก็ดีจะไม่สามารถซื้อในกระดานได้ถ้าหากราคาสูงกว่า 65 บาท เนื่องจากเป็นระดับราคาในการทำเทนเดอร์ฯ

ขณะที่กรณีท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 บริษัทเตรียมทำเป็น Fully Automation เพราะมองว่าจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการขนส่งระหว่างประเทศเนื่องจากแหลมฉบับมีรถไฟไทย-จีนที่สามารถขนส่งไปยังประเทศลาว

สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า มีมุมมองเชิงบวกสำหรับ GULF หลังเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH โดย GULF จะมุ่งเน้นในส่วน Digital Infrastructure ที่นำโดย INTUCH ซึ่งทาง GULF มีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ของ INTUCH โดยระยะแรกจะพยายามให้จ่าย Dividend กลับมาให้ GULF มากที่สุด ทั้งนี้ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน มองว่ามีโอกาสที่ ADVANC จะกลับมาจ่ายปันผล Payout 100% ได้ จากปัจจุบันที่จ่ายอยู่ 70% ของกำไรสุทธิ ขณะที่ INTUCH จ่ายปันผลระดับเกือบ 100% อยู่แล้วในปัจจุบัน

สำหรับในระยะกลางถึงยาวจะมี Synergy Benefit ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น พัฒนา Smart grid/smart city, Energy trading peer to peer ใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าของ AIS ที่มีถึง 40 ล้านหมายเลข รวมถึงพัฒนา data center ที่ต้องอาศัยไฟฟ้าที่มั่นคง ซึ่งเป็นจุดแข็งของ GULF ส่วนกรณี ADVANC ที่กำลังศึกษา Digital Infrastructure fund ทาง GULF ยังไม่ได้ดูในรายละเอียด ถ้ามีทิศทางที่ดีก็พร้อมสนับสนุน

ทั้งนี้ในภาพโดยรวมบล.ยูโอบี เคย์เฮียน ยังเห็น Upside ของ ADVANC มากกว่า INTUCH ทั้งในด้านปันผลที่จะมากขึ้น และ Synergy โดยตรงในอนาคต จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ADVANC มากกว่า INTUCH

ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โดยรวมมีมุมมองเชิงบวก และมีโอกาสได้เห็น GULF ปรับเปลี่ยนจากบริษัทพลังงานไปสู่บริษัทโครงสร้างพื้นฐาน ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ พลังงาน โลจิสติกส์ และดิจิทัล ได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงเรทติ้ง OUTPERFORM สำหรับ GULF

 

Back to top button