T ค้นฟ้าคว้าดาว.!?
T หรือ TIES พร้อม ๆ กับการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ตั้งแต่ปี 2558 ก็ดูเหมือนสถานการณ์ยังย่ำแย่เหมือนเดิม..!!
หลังจากบริษัท ที เอ็นจิเนียร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ T ซึ่งแปลงร่างมาจาก บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TIES พร้อม ๆ กับการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ตั้งแต่ปี 2558 ก็ดูเหมือนสถานการณ์ยังย่ำแย่เหมือนเดิม..!!
เห็นได้ชัดจากผลประกอบการตั้งแต่ปี 2560 ขาดทุนมาตลอด…ทำให้ตัวเลขทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นกระแสเงินสดที่แห้งขอดมีติดกระเป๋าแค่ 43 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ตัวเลขขาดทุนสะสมสูงถึง 1,515 ล้านบาท
กลายเป็นหุ้นที่ไม่ค่อยมีอนาคตมากนักในแง่การลงทุน จนทำให้ T เป็นหุ้นนอกสายตานักลงทุน…
แต่มาวันนี้ T กลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้ง โดยเฉพาะในแวดวงก่อสร้างและพลังงาน จากการประกาศเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง หรือ PP ให้กับกลุ่มเศรษฐีลาว จำนวน 54,044 ล้านหุ้น คิดเป็น 83.15% ที่ราคาหุ้นละ 0.02 บาท
ประกอบด้วย 1.“ปณิชา ดาว” จำนวน 51,994 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 80% มูลค่ารวม 1,039.88 ล้านบาท 2.“ฐิติมา ธนากรโยธิน” จำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.46% มูลค่ารวม 6 ล้านบาท 3.“ชัยยศ จิรบวรกุล” จำนวน 250 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.38% มูลค่ารวม 5 ล้านบาท 4.“อดิศร จ.จิตต์เจริญชัย” จำนวน 1,200 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.85% มูลค่ารวม 24 ล้านบาท และ 5.“กิตติโชติ หริตวร” จำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.46% มูลค่ารวม 6 ล้านบาท
แหม๊…ดูไปดูมาก็ไม่ต่างจากเศรษฐีลาวเข้ามาเทกกิจการ T เลย ว่าป๊ะล่ะ…
การถอยของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม แล้วเปิดทางให้กลุ่มใหม่ (เศรษฐีลาว) เข้ามา มาพร้อมกับสตอรี่ใหม่ที่น่าสนใจ..!! เนื่องจากกลุ่มเศรษฐีลาว นำโดย “เดวิด แวน ดาว” พร้อมศรีภรรยา “ปณิชา ดาว” ตามกระบวนการจะต้องตั้งโต๊ะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากผู้ถือหุ้นใหญ่ไฟเขียว (กำหนดวันชี้ชะตา 12 ต.ค.นี้)
การเข้ามาของกลุ่มนี้น่าสนใจ…ถ้าดูจากชื่อชั้นของ “เดวิด แวน ดาว” เป็นผู้คร่ำหวอดในแวดวงก่อสร้างและพลังงาน เห็นได้ชัดจากการไปนั่งเป็นกรรมการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP รวมถึงเป็นกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เซาท์อีส เอเชีย เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด และบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด นอกจากนี้ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีที จำกัด และกรรมการ บริษัท ลาว โคคาโคลา บอทลิ่ง จำกัด อีกด้วย
ต้องบอกว่า โปรไฟล์ของเศรษฐีลาวกลุ่มนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ…
กรณีนี้เท่ากับกลุ่มเศรษฐีลาว คงใช้ T ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตัวกลางระดมทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเชื่อมโยงไปสู่การรับงานในสปป.ลาว ซึ่งก่อนหน้านี้ปรากฏชัดถึงความคืบหน้าในหลาย ๆ โครงการ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง กำลังการผลิต 1,460 เมกะวัตต์…
หากแผนนี้เป็นไปตามเป้าหมาย กลุ่มนี้น่าจะต่อยอดไปสู่โครงการอื่น ๆ ในสปป.ลาว บวกกับมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกลุ่มช.การช่าง อยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่จะได้รับงานต่อจากกลุ่มช.การช่างอีกด้วย…ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป
ก็น่าคิดว่า การค้นฟ้าคว้าดาวเพื่อล่าเนื้อมาเติมในกระดอง (อีกครั้ง) ของ T จะช่วยให้บริษัทกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้มั้ย..?
จาก TIES มาสู่ T และกำลังจะเปลี่ยนโฉมใหม่เป็นบริษัท พีเอสจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในเร็ว ๆ นี้ จะซ้ำรอยเดิมหรือไม่..?
อ้อ…ที่เห็นสัปดาห์ก่อนราคาหุ้น T ขึ้นร้อนแรงแบบ No.สน No.แคร์ปัจจัยพื้นฐานนั้น ต้องย้อนไปดูเงื่อนไขการเพิ่มทุนครั้งนี้ ที่ระบุว่า 10% ของผู้ถือหุ้น สามารถโหวตสิทธิยับยั้ง (วีโต้) ได้ อันนี้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า…ก็ไม่รู้สินะ
แต่ถ้าใครอยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังจริง ๆ ต้องไปหาคำตอบเอาเองแล้วล่ะ…
เรื่องนี้หนูไม่อยากพูดเยอะ…เดี๋ยวงานเข้าไม่รู้ตัว…
…อิ อิ อิ…