TASCO กับกรณีช้างประสานงา
SET ของตลาดหุ้นกลับมาสดใสอีกครั้ง ล่าสุดอยู่เหนือแนวรับ 1,560 จุดแล้ว แม้ว่าการจะทะลุแนวต้านสำคัญ 1,600 จุด จะยากพอสมควร
ดัชนี SET ของตลาดหุ้นทยานกลับมาสดใสอีกครั้ง ล่าสุดอยู่เหนือแนวรับ 1,560 จุด มาได้แล้ว แม้ว่าการจะทะลุแนวต้านสำคัญ 1,600 จุด จะยากพอสมควร แต่หลังจากผ่านช่วงประกาศงบไตรมาสสองไปเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทจดทะเบียน สามารถทำกำไรปกติและพิเศษรวมกันกว่า 2.76 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 119.4% จากไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด และเพิ่มจากไตรมาสแรกราว 6% น่าจะหักกลบข่าวร้ายจากช่วงครึ่งหลังของปี ผลประกอบการมีแนวโน้มปรับลดลงหนัก จากผลของโควิด
ประเด็น “เกินคาด” และ “ตามคาด” จึงติดปากพอสมควร
ล่าสุด มีข่าวร้ายมาถล่มบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการสวยมาตลอดอย่าง TASCO หรือ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) จนราคาหุ้นร่วงมาใต้ราคา 19.00 บาท เนื่องจากตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่ามีเอี่ยวทางอ้อมกับการฟอกเงินของบริษัทน้ำมันแลกอาวุธในสหรัฐฯ
ข่าวปรากฏในคำให้การที่มีการยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐฯ ในรัฐฟลอริดา ระบุว่า บริษัท Achabal Technologies ในรัฐฟลอริดา โดยมีนายฮอร์เก โนเบรกา นักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน-เวเนซุเอลา เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ทำการขายโฟมที่เป็นฉนวนกันความร้อนในถังน้ำมันของเครื่องบินรบรัสเซียรุ่น Sukhoi SU-30 ให้แก่กองทัพเวเนซุเอลา ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
บังเอิญดีลซื้อขายน้ำมันดังกล่าว ระบุว่า TASCO มีชื่อเป็นลูกค้ารายหนึ่งของ Achabal ด้วย เรื่องก็เลยพัวพันว่า TASCO อาจจะถูกกล่าวหาว่าฟอกเงินร่วมกับบริษัทดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2019 สหรัฐฯ ยกระดับการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลของนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา เวเนซุเอลาครอบคลุมอุตสาหกรรมน้ำมัน มุ่งเป้าที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติ “ปิโตรเลออสเดอ เวเนซุเอลา” (PDVSA) เพื่อป้องกันไม่ให้รายได้จากบริษัทน้ำมันแห่งนี้ถูกมาดูโรฉกฉวยผลประโยชน์ได้อีก และเป็นการเคลียร์ทางให้กับ “ฮวน กุยโด” ประธานสมัชชาแห่งชาติ ที่สหรัฐฯ และอีก 40 ประเทศทั่วโลก รับรองให้เป็นหุ่นเชิด
มีแหล่งน้ำมันดิบสำรองมากที่สุดในโลก โดยรายได้หลักกว่า 95% มาจากการส่งออกน้ำมัน ดังนั้นมาตรการคว่ำบาตรธุรกิจน้ำมันของสหรัฐอเมริกาจึงเป็นไป เพื่อปิดทางรอดของ นาย นิโคลัส มาดูโร
มาตรการคว่ำบาตร PDVSA ส่งผลให้บริษัทสหรัฐฯ และบริษัทอื่น ๆ ไม่สามารถทำธุรกิจกับ PDVSA หากไม่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขณะที่การส่งออกยุทโธปกรณ์ทางการทหารก็ต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่ง Achabal ไม่มีใบอนุญาตทั้งสองใบ
นายโนเบรกาได้ถูกตำรวจสหรัฐฯ ควบคุมตัวเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน โดยอ้างผลการสอบสวนของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย.2562 ที่พบว่า นายโนเบรกาได้ช่วยเหลือกองทัพเวเนซุเอลาในการซ่อมบำรุงฝูงบินรบรัสเซียรุ่น Sukhoi SU-30 โดยไม่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติจากทางการสหรัฐฯ
สื่อรายงานว่า นายโนเบรกาได้เปิดบัญชีสำหรับบริษัท Achabal ในโปรตุเกส เพื่อเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่เขาได้รับจากรัฐบาลเวเนซุเอลา การกล่าวหาว่าเขาได้รับเงินหลายงวดจากรัฐบาลเวเนซุเอลาสำหรับค่าซ่อมบำรุงฝูงบินรบรัสเซียดังกล่าว ซึ่งบางครั้งเงินเหล่านี้โอนมาจากบริษัท TASCO ซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่ โดยมีการระบุว่า PDVSA ได้แจ้งให้ TASCO โอนเงินเข้าไปยังบัญชีของ Achabal ในโปรตุเกส
โดยนัยนี้ ข้อกล่าวหาของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิของสหรัฐฯ ระบุว่า TASCO เป็นผู้ฟอกเงินที่ร่วมมือกับ PDVSA ในการเคลื่อนย้ายเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐบาลเวเนซุเอลา
ประเด็นของเรื่องคือ กฎหมายคว่ำบาตรนี้ใช้เฉพาะกับบริษัทสหรัฐฯ ที่ทำธุรกรรมกับ PDVSA หลังจากมาตรการเดือนมกราคม 2563 มีผลบังคับใช้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ TASCO โดยตรง จะเป็นความผิดได้อย่างไร
คดีเกิดขึ้น ในเดือน ก.พ. 2562-มี.ค. 2563 ซึ่งทางผู้บริหารของ TASCO ได้แจ้งต่อตลาดว่าทาง US State Department ได้ขอให้ TASCO หยุดซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา และวันที่ 23 พ.ย. 2563 โดย TASCO แจ้งว่าได้หยุดซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาแล้ว
สำหรับในแง่กฏหมายการแซงก์ชั่นจะจำกัดเฉพาะบริษัทและพลเมืองในสหรัฐฯ แต่เป็นการร้องขอความร่วมมือสำหรับบริษัทต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่มีผลทางกฏหมายต่อ TASCO
TASCO ชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้ถูกกล่าวหาในฐานะจำเลยของการฟ้องร้องในครั้งนี้ โดยรายการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท PDVSA ที่ปรากฏในข่าว ทางบริษัทฯ และ US State Department ได้มีการติดต่อกัน ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2563 ทั้งนี้บริษัทฯ ยืนยันว่าได้ยุติความสัมพันธ์กับบริษัท PDVSA ตามข้อร้องขอของ US State Department โดยมีผลตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 ตามที่ได้ยกเลิกการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลา
เรื่องน่าจะจบลง ยกเว้นราคาหุ้นที่ยังไม่ไว้วางใจว่าผลทางกฎหมายจะลามปามแค่ไหน
ดังนั้น ไม่ว่ายามนี้นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TASCO จะแถลงข่าวอะไร ก็คงไม่เกิดผลเพราะว่าอยู่ระหว่าง “ช้างประสานงา” กันพอดี
คงอาจจะต้องรอให้ประธานาธิบดีมาดูโรถูกโค่นอำนาจจากการรัฐประหารไปแล้วน่ะแหละ