ITEL บวก 5% โบรกฯแนะ “ทยอยซื้อ” อัพเป้ากำไรปีนี้แตะ 250 ลบ.
ITEL บวก 5% โบรกฯ ปรับประมาณการกำไรปีนี้แตะ 250 ลบ. คาดค่าใช้จ่ายลดลง หลังนำเงินที่ได้จากการแปลงสภาพไปชำระหนี้ ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” จากเดิม “ถือ” ราคาเป้าหมาย 4.88 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (25 ส.ค.2564) ราคาหุ้นบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ณ เวลา 12.22 น. อยู่ที่ระดับ 4.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท หรือ 5.36% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.74 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 147.77 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค.2564) ด้วยลักษณะการประกอบธุรกิจของ ITEL มีความสอดรับไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ดังนั้นแนวโน้มผลดำเนินงานบริษัทฯจึงคาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หลังหน่วยงานหลายภาคส่วนเริ่มมีการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้มากขึ้น ทั้งนี้หากพิจารณาในแง่ธุรกิจของบริษัทฯ ถือว่าครบวงจร ตั้งแต่ธุรกิจ Installation ซึ่งเป็นการให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม, ธุรกิจ Data Service เป็นการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และธุรกิจ Data Center เป็นการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์
อีกทั้งจากงาน Opportunity Day วานนี้ ผู้บริหาร ITEL ยังคงเป้าหมายรายได้รวมปี 2564 คาดแตะ 2,800 ล้านบาท ถึงแม้ช่วงครึ่งปีแรก 2564 รับรู้รายได้เข้ามาเพียง 1,009 ล้านบาท คิดเป็น 36% ของเป้ารายได้รวมทั้งปี โดยบริษัทฯคาดช่วงครึ่งปีหลัง 2564 นอกจากรายได้ที่จะรับรู้ราว 900 กว่าล้านบาท จากจำนวนสัญญาที่มีอยู่ในมือแล้ว บริษัทฯยังคาดหวังการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือจากงานใหม่ๆที่คาดจะมีเข้ามา ซึ่งปัจจุบันมีงานที่บริษัทฯชนะการประมูลและอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากว่า 1,200 ล้านบาท
รวมถึง Potential ของงานในอนาคตที่บริษัทฯอยู่ระหว่างรอการประมูลไม่ว่าจะเป็นงาน USO – TOT และ Course Online ควบคู่กับการหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติมในส่วนของธุรกิจ Data Service และ Data Center ที่มีการเจรจากันอยู่ ขณะที่ในช่วง 5 ปี ข้างหน้านับจากนี้บริษัทฯตั้งเป้าจะมีรายได้ขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตรายได้เฉลี่ยปีละ 15.60% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2569
อย่างไรก็ดีเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและความน่าสนใจจากการเข้ามาถือของกองทุนทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนสภาพคล่องจากการซื้อขายให้มีมากขึ้น นอกจากการมีมติอนุมัติย้ายหลักทรัพย์ ITEL จากตลาด mai เข้าซื้อขายในตลาด SET ที่เบื้องต้นคาดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย. 2564 นี้ อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่บริษัทฯกำลังดำเนินการอยู่คือ การเพิ่มทุนด้วยการออกวอแรนต์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาระดับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ให้เหมาะสม พร้อมทั้งลดปัญหาค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ถือเป็นปัจจัยกดดันผลดำเนินงาน ITEL เฉลี่ยแต่ละไตรมาสราว 30 – 40 ล้านบาท รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมขึ้นเครื่องหมาย XW ในวันที่ 9 ก.ย. 2564 เพื่อออก ITEL-W3 โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งนับรวมถึงผู้ที่จะได้รับหุ้นเพิ่มทุนจากการใช้สิทธิแปลงสภาพ ITEL-W2 ที่ปัจจุบันการใช้สิทธิ์เสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2564 และจะเริ่มเข้ามาซื้อขายในวันที่ 7 ก.ย. 2564 ในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะสามารถซื้อได้ 1 หุ้นที่ราคาใช้สิทธิ 3.30 บาท
อนึ่งแม้ทางฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการรายได้รวมปี 2564 เป็น 2,179 ล้านบาท จากเดิม 2,413 ล้านบาท หลังกังวลต่อ ความล่าช้าในการเซ็นสัญญาที่อาจทำให้รับรู้รายได้ไม่ทันปีนี้ หากแต่ปรับกำไรสุทธิขึ้นเป็น 250 ล้านบาท หลังคาดค่าใช้จ่ายทางการเงินมีโอกาสปรับลงจากการนำเงินที่ได้จากการแปลงสภาพไปชำระเจ้าหนี้ ขณะที่แนวโน้มผลดำเนินงานปี 2565 คาดเติบโตแตะ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ภายใต้สมมติฐาน รายได้รวมคาดโต 23.80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน บวกกับค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงต่อและเพื่อสะท้อนต่อจำนวนหุ้นที่คาดจะเพิ่มขึ้นจากการใช้สิทธิแปลงสภาพทั้ง ITEL-W2 และ ITEL-W3
สำหรับเบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยประเมินจำนวนหุ้นสิ้นปี 2564 จะอยู่ที่ 1,250 ล้านหุ้น และปี 2565 จะอยู่ที่ 1,350 ล้านหุ้น ซึ่งส่งผลทำให้ ราคาพื้นฐานปี 2565 ใหม่ปรับเพิ่มเป็น 4.88 บาท จากเดิม 4.56 บาท ทั้งนี้ ณ ราคาหุ้นปัจจุบันพบว่ายังมีส่วนต่างจากราคาพื้นฐาน ทางฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ทยอยซื้อ” จากเดิม “ถือ”