“เครดิต สวิส” คัด 5 หุ้นเด่นธีม “เปิดเมือง” ชู Outperform อัพไซด์เกิน 20%

เครดิต สวิส ระบุในบทวิเคราะห์ถึงสถารการณ์โควิด-19ในประเทศไทยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้น โดยมองว่ายังน่าเป็นห่วงจากตัวเลขผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เครดิต สวิส มองข้ามไปยังปลายปี 2564 ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดประเทศได้ จึงหันมองหุ้นที่จะได้ประโยชน์ใน Reopening Plays นี้ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท หรือ BTSGIF, บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL

อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าอัตราผู้ติดเชื้อจะลดลงในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่อาจจะยังยากต่อการเปิดประเทศแบเต็มรูปแบบเลยในระยะแรก  ส่วนอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศนั้นยังน้อยอยู่ รั้งท้ายเป็นอันดับสามในเอเชียแปซิฟิก และที่สำคัญคือวัคซีนที่ฉีดให้นั้นไม่ใช่ mRNA

นอกจากนั้น เครดิต สวิส อ้างอิงข้อมูลอัตราการสัญจรบนถนนจาก Google ที่ลดลงอยากมากในเดือนสิงหาคม ซึ่งหากประเมิณว่าการสัญจรนอกบ้านทำให้การติดเชื้อในประเทศลดลง การคลายล็อกดาวน์ก็อาจทำให้ผู้ติดเชื้อกลับมาสูงขึ้นได้เช่นกัน

ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นมองว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าตัวเลขจะกลับมาเป็นปกติ ถึงแม้ประเทศไทยจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลง แต่ข้อกำหนดในการข้ามพรมแดนก็จะยังมีอยู่ นอกจากนั้นแล้ว ประเทศในเอเชียที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำอย่าประเทศจีนก็จะมีการอนุญาตให้ประชากรของตนเดินทางออกนอกประเทศอย่างช้าๆ และความกลัวที่จะถูกกักตัวในต่างประเทศก็จะยังเป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่กล้าเดินทางเข้ามา

อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถเปิดประเทศได้แบบเต็มรูปแบบ หรือใกล้เคียงในปลายปีนี้ โดยมองจากอัตราการฉีดวัคซีนที่เร่งตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 5.1 แสนคนในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เทียบกับ 1.9 แสนคนในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ เครดิต สวิส คาดว่าราว 80% ของประชากรไทยจะพอมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 ทั้งจากวัคซีน และที่ได้จากการติดเชื้อแล้วหาย

ทั้งนี้ เครดิต สวิส ยังมีมุมมองที่ดีต่อไตรมาส 4 โดยระบุว่ากลุ่มการเงิน อสังหาฯ พาณิชย์ ขนส่ง เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างอ่อนไหวกับมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจากการวิเคราะห์ผลตอบแทนของหุ้นตั้งแต่เริ่มโควิดระลอกที่สามในประเทศไทย พบว่า KBANK ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 178 บาท, VGI ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 7.80 บาท, BTSGIF ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท, MAJOR ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 29 บาท และ BBL ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 152 นั้นมีผลตอบแทนที่ยังติดลบอยู่จากกลุ่มข้างต้นที่กล่าวมา จึงมองว่าหุ้นเหล่านี้จะ Outperform โดยมีอัพไซด์มากกว่า 20%

หลักทรัพย์	ราคาล่าสุด 26 ส.ค.64 (บาท)	ราคาเป้าหมาย (บาท)	อัพไซด์ (%)
KBANK	119.50	178.00	48.95
VGI	6.25	7.80	24.80
BTSGIF	4.80	6.00	25.00
MAJOR	20.70	29.00	40.10
BBL	115.00	152.00	32.17