OSP ส่งซิกครึ่งปีหลังสดใส เตรียมคลอดสินค้าใหม่หนุนยอดขายโต
OSP คาดผลงานช่วงครึ่งหลังของปี 64 โตดีกว่าตลาด จากการคลายล็อกดาวน์ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์หลักหนุน
นางจิตอาภา อัมราลิขิต หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ทางการเงิน บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังดีกว่าภาพรวมตลาด (Outperform) ผ่านการออกสินค้าใหม่ ทั้งในกลุ่ม Energy Drink และ Functional Drink ภายใต้แบรนด์หลักอย่าง M150, ซี-วิท พลัส รวมถึงยังคงเน้นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเทรนด์ Health&Wellbeing อย่างผลิตภัณฑ์ เบบี้มายด์ และ ลิโพ-ไฟน์ ที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันตลาดต่างประเทศในครึ่งปีหลังนี้เชื่อว่าจะยังคงทำได้ดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เนื่องจากมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในประเทศเมียนมา หรือใน CLMV อย่างแบรนด์ SHARK ซึ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในเมียนมา และยังมีโรงงานในเมียนมา รวมถึงมีทีมที่เป็น Local Team ในประเทศนั้นๆ ทำให้บริษัทสามารถทำยอดขายได้ดี
ทั้งนี้ บริษัทยังได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานในระยะยาว (Win Tomorrow) โดยต้องการ Transform our Ecosystem ที่พร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ในอนาคต 5 ด้าน ได้แก่ 1.Winning with Consumer ในเรื่องของ Health&Wellbeing, Aging Population, Consumer lifestyle ทำให้บริษัทต้องมีนวัตกรรมและพอร์ตโฟลิโอที่เข้ามาตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ 2. Winning with Customer ผ่านการนำ Big Data มาใช้ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ
- Data Analytic Capability เพื่อตัดสินใจที่ดีและเร็วขึ้น 4. Internal Efficiency ต้องการนำดิจิทัลเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งการเพิ่ม Agility หรือความคล่องตัว และต้นทุนที่ดีขึ้น 5. Leverage Stronger Balance Sheet เนื่องด้วยบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จึงมองโอกาสในการซื้อกิจการ (M&A and Partnership)
“แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนั้น ยอมรับว่ายังดูยาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ แต่ไม่ว่าตลาดจะเป็นอย่างไร เราก็อยากจะ Outperform ตลาด” นางจิตอาภา กล่าว
ขณะที่ภาพรวมตลาดในครึ่งปีหลังนี้ ภายหลังจากภาครัฐประกาศคลายล็อกดาวน์บางส่วน เห็นได้ว่าในช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา Sentiment เริ่มกลับมาดีขึ้น ทำให้ยอดขายกลับมาดีขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดในเมียนมา ในไตรมาส 3/64 โดยปกติแล้วจะเป็นช่วงของโลซีซั่นของธุรกิจ รวมถึงในเดือน ก.ค.-ส.ค.64 ก็ยังมีการล็อกดาวน์ แต่บริษัทฯ ยังคงพยายามเต็มที่ และเชื่อว่าจะยังคงการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านแบรนด์และทีมงานที่แข็งแกร่ง
ส่วนความคืบหน้าของการออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชง-กัญชา บริษัทมองว่าจะสามารถออกสินค้าดังกล่าวได้ในช่วงต้นปี 65
ด้านงบลงทุนในปีนี้ บริษัทได้วางงบไว้ที่ 2,000-2,500 ล้านบาท โดยใช้ไปแล้วบางส่วนเพื่อซ่อมบำรุงเตาหลอมแก้วตามแผนในไตรมาส 1/64 และใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตทั้งโรงงานในประเทศและต่างประเทศ และลดต้นทุนผ่านโครงการ Fit Fast Firm โดยตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ที่ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็จะเน้นใช้ในการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ คลังสินค้า (Warehouse) และสายงานการส่ง เพื่อนำไปสู่การสร้างผลกำไรสุทธิได้มากขึ้น